แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - siritidaphon

หน้า: [1] 2 3 ... 53
1
งานฝีมือวิธีเปลี่ยนเศษผ้าเป็นของใช้ที่มีประโยชน์และเพิ่มความน่ารัก

การเปลี่ยนเศษผ้าเป็นของใช้ที่มีประโยชน์และเพิ่มความน่ารัก เป็นการนำหลักการ DIY (Do It Yourself) และการ Upcycling มาใช้ ซึ่งช่วยลดขยะและสร้างสรรค์ของใช้ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว นี่คือไอเดียและวิธีการที่สามารถทำตามได้ง่ายๆ:

💡 ไอเดีย DIY จากเศษผ้าที่ใช้ได้จริงและน่ารัก

1. ของใช้ส่วนตัวและเครื่องประดับ

ของใช้                                                          วิธีทำโดยย่อ (เน้นความน่ารัก)                                                       ประโยชน์

ที่ใส่เหรียญ / กระเป๋าจิ๋ว   ใช้เศษผ้าชิ้นเล็กๆ ลายดอกไม้ หรือลายการ์ตูน เย็บเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมหรือทรงโค้งมน ติดซิปเล็กๆ หรือกระดุมแป๊ก และอาจเพิ่มห่วงพวงกุญแจ   ใส่เหรียญ, กุญแจ, หูฟัง, หรือของจุกจิกเล็กๆ

ยางรัดผม / โบว์ผูกผม   ตัดเศษผ้าเป็นแถบยาว (สำหรับยางรัดผมแบบ Scrunchie) หรือตัดเป็นรูปโบว์แล้วเย็บติดกับกิ๊บหรือหนังยาง   ใช้ประดับผม เพิ่มความน่ารักให้กับทรงผม

เข็มกลัด/ของตกแต่งกระเป๋า   ตัดผ้าสักหลาดหรือผ้าหนาเป็นรูปทรงน่ารัก (เช่น ดอกไม้, หัวใจ, สัตว์) ยัดใยสังเคราะห์เล็กน้อยให้ดูนูน และเย็บติดเข็มกลัดด้านหลัง   ใช้ติดเสื้อ, หมวก, หรือกระเป๋าผ้า เพิ่มรายละเอียดที่เก๋ไก๋

ปกสมุดโน้ต / ปกหนังสือ   เย็บเศษผ้าที่มีลวดลายเข้าด้วยกันเป็นผืนใหญ่พอดีกับปกสมุด เพิ่มช่องใส่ปากกาด้านข้าง              ถนอมปกสมุด ทำให้สมุดดูมีสไตล์ไม่ซ้ำใคร


2. ของใช้ในบ้านและการตกแต่ง

ของใช้                                                                             วิธีทำโดยย่อ (เน้นความน่ารัก)                                              ประโยชน์
ที่รองแก้ว/ที่รองจาน   ตัดเศษผ้าเป็นรูปสี่เหลี่ยมหรือวงกลม แล้วเย็บประกบ 2 ชั้น (อาจใส่ใยบุบางๆ) หรือใช้เทคนิคเย็บปะติดปะต่อ (Patchwork)   ป้องกันรอยน้ำบนโต๊ะ และตกแต่งโต๊ะอาหาร

พวงมาลัย/ธงราวตกแต่ง (Garland) ตัดเศษผ้าเป็นรูปสามเหลี่ยมหรือสี่เหลี่ยมจัตุรัสเล็กๆ เย็บติดกับเชือกหรือริบบิ้น   ใช้ตกแต่งห้อง, ผนัง, หรือมุมทำงาน เพิ่มความสดใส

ตุ๊กตา/หมอนอิงรูปสัตว์   วาดแพทเทิร์นรูปสัตว์น่ารัก (เช่น แมว, นกฮูก) ลงบนเศษผ้า เย็บประกบกัน เว้นช่องสำหรับยัดใยสังเคราะห์ แล้วเย็บปิด   ของตกแต่ง, ของเล่น, หรือหมอนรองนั่ง/อิง

ผ้ากันเปื้อนในครัว            ใช้เศษผ้าชิ้นใหญ่ๆ หรือเย็บเศษผ้าหลายชิ้นต่อกันให้เป็นผ้ากันเปื้อนลายเก๋ๆ                      ป้องกันเสื้อผ้าเปื้อนขณะทำอาหาร

ที่นอนสัตว์เลี้ยง   ใช้เศษผ้าเยอะหน่อย นำมาเย็บเป็นถุงทรงกลมหรือสี่เหลี่ยมใหญ่ๆ แล้วยัดด้วยเศษผ้า/เสื้อผ้าเก่าที่ไม่ใช้แล้ว เพื่อทำเป็นเบาะนุ่มๆ   ที่นอนแสนสบายสำหรับน้องหมาน้องแมว


🛠️ เทคนิคเพิ่มความน่ารักให้งานฝีมือ

การใช้ผ้าหลายลวดลาย (Patchwork/Quilting): นำเศษผ้าที่มีลวดลายและสีสันแตกต่างกัน (เช่น ลายจุด, ลายทาง, ลายดอก) มาเย็บต่อกันเป็นผืนใหญ่ ทำให้เกิดลวดลายใหม่ที่น่ารักและมีมิติ

การปักตกแต่ง (Embroidery): ใช้ด้ายปักเพิ่มรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เช่น ปักหน้าตาให้ตุ๊กตา ปักชื่อ หรือปักดอกไม้เล็กๆ บนชิ้นงานที่เรียบง่าย

การทำเป็นรูปทรงเฉพาะ: เปลี่ยนจากการเย็บสี่เหลี่ยมธรรมดา มาเป็นรูปทรงเฉพาะ เช่น รูปผลไม้ (สตรอว์เบอร์รี่, แอปเปิล), รูปหยดน้ำ, หรือรูปเมฆ

การเพิ่มวัสดุตกแต่ง: ติดโบว์, ลูกปัด, กระดุมไม้, หรือป้ายผ้าปัก (Label Tag) ที่ทำจากเศษผ้าชิ้นจิ๋ว เพื่อเพิ่มมูลค่าและความน่าสนใจให้ชิ้นงาน

2
“สร้างเงินแสนจากครัวที่บ้าน” สไตล์ครูแมกซ์

จุดเริ่มต้นเพียงแค่ไม่มีใจรักการเป็นลูกน้อง และไม่ชอบการทำงานในองค์กร บวกกับมีความตั้งใจที่ว่า อยากฝึกทักษะการทำอาหารไว้ทำให้คุณพ่อคุณแม่ทานตอนท่านแก่
พร้อมกับคำพูดของคุณแม่ที่ชอบบอกว่า “การขายของมันได้จับเงินทุกวัน” นั่นคือจุดตัดสินใจ

ครูแมกซ์
จุดเริ่มต้นง่ายๆก็เริ่มจากการเรียนรู้จากคุณแม่ของครูแมกซ์เอง ท่านเป็นคนทำอาหารไทยอร่อย และเคยเปิดร้านอาหารมาก่อนตอนครูแมกซ์เด็กๆ
โดยใช้การถาม สังเกตอย่างละเอียด และฝึกชิมรสชาติของอาหารที่แท้จริง (เพราะคุณแม่ไม่เคยชั่งตวงวัดแม่บอกชิมให้เป็นไม่ต้องมาถามสูตร555)
ร่วมกับการเรียนรู้ผ่านสื่อออนไลน์ เช่น ยูทูป ดูทุกวันตลอดระยะเวลา 8-10ปี พร้อมกับการซื้อวัตถุดิบมาลงมือทำจริง ชิมจริง ทำให้คคุณแม่ทานจริง

ครูแมกซ์
จนถึงจุดที่มั่นใจแล้วว่า…จะทำอาหารเพื่อสร้างรายได้เริ่มง่ายๆจากครัวที่บ้าน
จากประสบการณ์ตลอดระยะเวลา15ปี ที่ครูแมกซ์มีรายได้จากอาหาร ไม่ว่าจะเป็นการยืนขายสลัดริมถนนหน้าตึกชาญอิสะ2 เปิดรับออเดอร์ลุกค้าในหมู่บ้าน การพรีออเดอร์ผ่านทางโซเชียลมีเดีย หรือแม้กระทั่งการออกบูทตามห้างดังต่างๆ

ทั้งหมดนี้ผ่านการทำจริง ได้ผลลัพธ์จริงมาทั้งหมดแล้วด้วยตัวครูแมกซ์เองคนเดียว (แบบไม่เลือกการมีลูกน้อง)

จึงมั่นใจมากว่าจากประสบการณ์ทั้งหมดที่ครูแมกซ์สั่งสมมาตลอดจนถึงวันนี้

ไข่เจียว
ครูแมกซ์ได้พิสูจน์แล้วว่า…การสร้างเงินแสนจากครัวที่บ้าน “มันทำได้จริง”
ครูแมกซ์ก็พร้อมที่จะถ่ายทอดทุกสูตรลัด แบไต๋ทุกเคล็ดลับให้คุณแบบหมดเปลือก!!  !!ความตั้งใจนั้นมันก็ได้เกิด”ผลลัพธ์”กับลูกศิษย์ครูแมกซ์เรียบร้อยแล้ว

📌น้องมิ้นท์ นักเรียนคอร์สไพรเวทจับมือทำรอบสด
ลาออกจากงานประจำเพื่อมาเปิดร้านขายอาหาร หลังจากเรียนกับครูแมกซ์ไปเพียงแค่3วัน น้องได้จับเงินบาทแรกจากอาหารทันที!!
โดยเปิดรับพรีออเดอร์จากอาพาร์ทเมนต์ (โดยมีครูแมกซ์เป็นที่ปรึกษาตลอด1เดือนเต็ม) เริ่มจากเมนูง่ายๆที่ครูแมกซ์เลือกให้เป็นเมนูประจำร้าน คือ “เมนูไข่ฟูหมูฉ่ำนัว”

‼️ล่าสุดเพียงแค่ 2เดือน ยอดขายเดือนกุมภาพันธ์ 68
สรุปได้ยอดขาย 60,000 บาท (ทำด้วยตัวคนเดียว)

📌น้องเติ๊ด นักเรียนคอร์สออนไลน์
เป็นพนักงานประจำหัวหน้าแผนกHR อยากหาอาชีพเสริมเพื่อวางแผนลาออกจากงานประจำ หลังจากเรียนคอร์สครูแมกซ์ภายใน 7 วัน น้องได้จับเงินบาทแรกจากอาหารทันที!!
โดยเปิดรับออเดอร์ที่คอนโด เริ่มจากเมนูง่ายๆที่เรียนจากคอร์สสูตรกะเพรา กับ คอร์ส10เมนูไข่ทำง่ายรายได้ปัง เมนูประจำร้าน คือ “เมนูข้าวไข่เจียว ไข่ข้น”
‼️ล่าสุดเพียงแค่ 2เดือน ยอดขายได้มากกว่าเงินเดือนประจำเป็นที่เรียนร้อยแล้ว พร้อมกับยื่นใบลาออก (แต่นายยังไม่อนุมัติ)


สนใจติดต่อสอบถามข้อมูล
ไลน์ ID  :  @krumax
Page FB : https://web.facebook.com/profile.php?id=61569480015186
เว็บไซด์ : https://krumax.net/krumaxcourse/
เบอร์โทร : 081-413-4479


3
ภัยร้ายของโรคความดันโลหิตสูงและไขมันในเลือดสูง

โรคความดันโลหิตสูงและไขมันในเลือดสูงเป็น ภัยเงียบคู่แฝด ที่มักมาคู่กัน และเป็นปัจจัยเสี่ยงหลักที่เร่งให้เกิดการเสื่อมของหลอดเลือดทั่วร่างกาย ซึ่งนำไปสู่โรคร้ายแรงที่คุกคามชีวิตและก่อให้เกิดความพิการ

ภัยร้ายที่สำคัญที่สุดของทั้งสองโรคนี้ คือการทำลายระบบ หัวใจและหลอดเลือด (Cardiovascular System)


ภัยร้ายที่เกิดจาก ความดันโลหิตสูง (>140/90 mmHg)

ความดันโลหิตสูงเปรียบเหมือน "แรงดันที่มากเกินไป" ที่ทำร้ายผนังหลอดเลือดและหัวใจโดยตรง

ทำลายหลอดเลือด: แรงดันสูงทำให้หลอดเลือดแดงแข็งตัว หนาตัว และเสื่อมสภาพเร็วขึ้น

ทำลายหัวใจ: หัวใจต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อสูบฉีดเลือดผ่านหลอดเลือดที่แข็งตัว ส่งผลให้กล้ามเนื้อหัวใจหนาตัวขึ้นและนำไปสู่ภาวะหัวใจล้มเหลวในที่สุด


ภาวะแทรกซ้อนหลัก:

โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke): สาเหตุสำคัญของอัมพฤกษ์/อัมพาต อาจเกิดจาก:

หลอดเลือดสมองแตก: จากแรงดันสูงที่ดันผนังหลอดเลือดที่เสื่อม

หลอดเลือดสมองตีบ/อุดตัน: จากหลอดเลือดแข็งตัวหรือมีลิ่มเลือดมาอุด

โรคหัวใจขาดเลือดและหัวใจวาย: หลอดเลือดที่ไปเลี้ยงหัวใจตีบตัน ทำให้กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด หรือหัวใจอ่อนแรงจนเกิดภาวะหัวใจล้มเหลว

โรคไตเรื้อรัง (Chronic Kidney Disease): แรงดันที่สูงเกินไปทำลายหลอดเลือดฝอยเล็ก ๆ ในไต (หน่วยกรอง) ทำให้ไตเสื่อมลงจนอาจนำไปสู่ภาวะไตวาย

โรคจอประสาทตาผิดปกติ: หลอดเลือดเล็ก ๆ ที่ตาถูกทำลาย ทำให้การมองเห็นแย่ลงหรือตาบอดได้


ภัยร้ายที่เกิดจาก ไขมันในเลือดสูง (Dyslipidemia)

ไขมันในเลือดสูง โดยเฉพาะ LDL-Cholesterol (ไขมันตัวร้าย) สูง และ HDL-Cholesterol (ไขมันตัวดี) ต่ำ เป็นตัวการหลักในการก่อ "ตะกรันไขมัน"

การก่อตัวของคราบไขมัน (Plaque): ไขมันตัวร้ายจะเข้าไปสะสมและเกาะที่ผนังด้านในของหลอดเลือดแดง ทำให้เกิดภาวะ หลอดเลือดแดงแข็ง (Atherosclerosis) หลอดเลือดจะแคบลงและเสียความยืดหยุ่น


ภาวะแทรกซ้อนหลัก:

โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ: คราบไขมันที่สะสมในหลอดเลือดหัวใจทำให้เลือดไหลเวียนไม่สะดวก เสี่ยงต่อภาวะหัวใจขาดเลือด หรือหัวใจวายเฉียบพลัน หากคราบไขมันแตกออกและเกิดลิ่มเลือดอุดตัน

โรคหลอดเลือดสมอง: คราบไขมันสามารถไปตีบตันหลอดเลือดในสมอง หรือลิ่มเลือดจากจุดอื่นหลุดไปอุดตัน ทำให้เกิดอัมพฤกษ์/อัมพาต

โรคหลอดเลือดแดงส่วนปลายอุดตัน: มักเกิดที่ขา ทำให้มีอาการปวดขาเมื่อเดิน (ปวดน่อง), แผลหายยาก และเสี่ยงต่อการสูญเสียนิ้วหรือขา


ความอันตรายเมื่อเป็นทั้ง 2 โรคพร้อมกัน

หากเป็นทั้งความดันโลหิตสูงและไขมันในเลือดสูงพร้อมกัน ความเสี่ยงที่จะเกิดโรคแทรกซ้อนจะ ทวีคูณ เพราะ:

ความดันสูง: เร่งให้ผนังหลอดเลือดเกิดความเสียหาย

ไขมันสูง: ใช้ความเสียหายนั้นเป็นจุดเริ่มต้นในการสะสมคราบไขมัน

ผลลัพธ์: หลอดเลือดแข็งตัวและตีบตันเร็วขึ้นมาก ความเสี่ยงต่อการเกิดหัวใจวายและอัมพฤกษ์/อัมพาตจึงสูงกว่าผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงเพียงอย่างเดียวหลายเท่า

4
ทำอาชีพเสริมขายผัดวุ้นเส้นหมูสับ เส้นเหนียวนุ่ม ไม่เละไม่แข็ง อิ่มอร่อยได้ในทุกคำ

ผัดวุ้นเส้นหมูสับคือเมนูที่ไม่เคยทำให้ผิดหวัง เรียบง่าย รสชาติเข้มข้นและดีต่อสุขภาพ อาหารจานเดียวจานนี้เป็นที่นิยมของทั้งคนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยว ผสมผสานเนื้อสัมผัสที่นุ่มเด้งของวุ้นเส้นเข้ากับรสชาติกลมกล่อมของหมูสับ ปรุงรสด้วยวัตถุดิบไทยคลาสสิก สร้างสรรค์รสชาติเค็ม หวานและอูมามิที่ลงตัวอย่างลงตัวสามารถทำเป็นอาหารจานเดียวหรือจะทานกับข้าวสวยร้อน ๆ ก็ได้เช่นกัน

อะไรที่ทำให้จานนี้พิเศษ
แตกต่างจากผัดหมี่ชนิดอื่นๆ วุ้นเส้นโดดเด่นด้วยเนื้อสัมผัสที่เบาและเหนียวนุ่มเล็กน้อย ซึมซับซอสและเครื่องปรุงรสได้อย่างดีเยี่ยม ทำให้ทุกคำเต็มรสชาติ รับประทานคู่กับหมูสับ ผัก และซีอิ๊วขาวและซอสหอยนางรมเล็กน้อย อาหารจานนี้อิ่มท้องแต่ไม่หนักท้องเกินไป เหมาะสำหรับมื้อกลางวัน มื้อเย็น หรือแม้แต่มื้อดึกแบบเร่งรีบ

ส่วนผสมหลัก
วุ้นเส้น:เส้นบะหมี่นุ่มใส ทำจากถั่วเขียว
หมูสับ :เพิ่มโปรตีนและรสชาติกลมกล่อม
ผัก:โดยทั่วไปจะเป็นกะหล่ำปลี แครอท หัวหอม หรือมะเขือเทศ เพื่อความสดใหม่
เครื่องปรุงรส :ซอสถั่วเหลือง, ซอสหอยนางรม, น้ำปลา และน้ำตาลเล็กน้อยเพื่อรสชาติที่สมดุล
ไข่:คนให้เข้ากันเพื่อความเข้มข้นและเนื้อสัมผัสที่มากขึ้น

วิธีทำ
เตรียมวัตถุดิบ: นำวุ้นเส้นที่แช่น้ำแล้วไปสะเด็ดน้ำให้แห้ง และพักไว้ เตรียมผักต่าง ๆ ให้พร้อม
ผัดกระเทียม: ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันเล็กน้อย พอร้อนใส่กระเทียมสับลงไปผัดให้หอม
ผัดหมูสับ: ใส่หมูสับลงไปผัดให้สุกและมีสีสวยงาม
ใส่ผัก: ใส่ผักที่สุกยากก่อน เช่น แครอท กะหล่ำปลี ผัดพอผักเริ่มนิ่ม จากนั้นใส่มะเขือเทศและเห็ดหูหนูลงไปผัดรวมกัน
ปรุงรส: ปรุงรสด้วยน้ำมันหอย, ซีอิ๊วขาว, น้ำตาลทราย, น้ำปลา, และพริกไทย ผัดให้เครื่องปรุงเข้ากับส่วนผสมทั้งหมด
ใส่วุ้นเส้น: ใส่วุ้นเส้นที่เตรียมไว้ลงไปผัดอย่างรวดเร็วให้เข้ากันกับส่วนผสมและเครื่องปรุงทั้งหมด
ใส่ผักที่เหลือ: ใส่ต้นหอมและขึ้นฉ่ายลงไปผัดคลุกเคล้าให้เข้ากันอีกครั้ง
เสิร์ฟ: ตักใส่จาน พร้อมเสิร์ฟความอร่อยได้เลย

ผัดวุ้นเส้นหมูสับทั้งอิ่มท้องและอุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ การผสมผสานระหว่างเส้นก๋วยเตี๋ยว เนื้อสัตว์ และผัก ช่วยให้คุณได้สารอาหารที่สมดุลในจานเดียว ทั้งคาร์โบไฮเดรต โปรตีน และไฟเบอร์ อีกทั้งยังปรุงง่าย เหมาะอย่างยิ่งสำหรับวันที่เร่งรีบและต้องการอาหารอร่อยๆ อิ่มท้องโดยไม่ต้องเสียเวลาเข้าครัวหลายชั่วโมง

รูปแบบต่างๆ ที่จะลอง
เปลี่ยนหมูสับเป็นไก่ กุ้ง หรือแม้แต่เต้าหู้เป็นเวอร์ชันมังสวิรัติ
ปรุงรสตามชอบ เผ็ดแบบพริก หรืออ่อนแบบเผ็ดมาก
เพิ่มผัก เช่น ข้าวโพดอ่อน พริกหยวก หรือเห็ด เพื่อคุณค่าทางโภชนาการเพิ่มเติม

เคล็ดลับความอร่อย
ควรแช่วุ้นเส้นในน้ำธรรมดา หรือน้ำอุณหภูมิห้อง ไม่ใช้น้ำร้อน จะทำให้นิ่มกำลังดีและไม่อืดง่าย
ไม่ควรผัดนานเกินไป เพราะจะทำให้วุ้นเส้นเละและเส้นขาด
สามารถเพิ่มผักหรือเนื้อสัตว์อื่น ๆ ได้ตามชอบ เช่น กุ้ง, ปลาหมึก, ไข่ไก่ หรือไข่เป็ด

ผัดวุ้นเส้นหมูสับไม่ได้เป็นแค่อาหารไทยธรรมดาๆ แต่เป็นอาหารจานเดียวที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น เน้นย้ำถึงแก่นแท้ของอาหารไทยพื้นบ้าน ไม่ว่าจะทานที่ร้านริมทางหรือปรุงสดใหม่ในครัวของคุณเอง อาหารจานนี้รับรองว่าจะทำให้คุณอิ่มอร่อยได้ในทุกคำ


5
จัดฟันบางนา: หลายคนสงสัย ? จัดฟันแบบใส สามารถใช้ไหมขัดฟันได้หรือไม่ !

การจัดฟันแบบใส เป็นการจัดฟันรูปแบบใหม่ที่ใช้นวัตกรรมที่ทันสมัยเข้ามาใช้ในการรักษา ตั้งแต่การวางแผนการรักษา จนไปถึงการออกแบบเครื่องมือการจัดฟัน ซึ่งการจัดฟันแบบใสนั้น ทราบกันดีอยู่แล้วว่ามีจุดเด่นอยู่ที่เครื่องมือการจัดฟัน ที่มีความใสและบาง เมื่อผู้เข้ารับการรักษาสวมใส่เครื่องมือแล้ว จะทำให้สังเกตเห็นได้ยากว่า ได้ใส่เครื่องมือจัดฟันอยู่

ทั้งการใส่เครื่องมือจัดฟันที่สามารถถอดเครื่องมือและใส่เครื่องมือได้อย่างรวดเร็วและไม่ยุ่งยาก ถอดเข้า-ออก ได้อย่างง่ายดายสะดวกต่อการทำความสะอาดหลังทานอาหารพร้อมทำกิจกรรมระหว่างวันได้อย่างมั่นใจ และนอกจากนี้การจัดฟันแบบใส ยังเป็นการส่งเสริมให้ผู้เข้ารับการรักษามีสุขภาพช่องปากที่ดีในระยะยาวด้วย เพราะเครื่องมือที่สามารถถอดออกได้ขณะทำความสะอาด จึงทำให้ผู้เข้ารับการรักษาสามารถทำความสะอาดช่องปากและฟันได้อย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องกังวลว่าเครื่องมือจะหลุด แถมยังทำความสะอาดช่องปากและฟันได้ทุกซอกทุกมุม เพื่อลดการเกิดการสะสมของเชื้อแบคทีเรีย ในจุดที่เข้าความความสะอาดได้ยาก

ทั้งนี้การจัดฟันแบบใส หลายคนสงสัยว่าสามารถใช้ไหมขัดฟันร่วมกับการแปรงฟันได้หรือไม่ ตอบเลยว่า ได้ เพราะการจัดฟันแบบใส อย่างที่ทราบกันดีว่า สามารถถอดเครื่องมือจัดฟันออกได้ ขณะการแปรงฟันหรือทำความสะอาดฟัน สามารถทำความสะอาดได้อย่างล้ำลึก เพราะฉะนั้นการใช้ไหมขัดฟันขณะทำความสะอาดช่องปากและฟัน ถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะไหมขัดฟัน สามารถทำความสะอาดฟันได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไหมขัดฟัน เป็นอุปกรณ์ทำความสะอาดช่องปากและฟัน ที่มีลักษณะคล้ายเส้นด้าย ปัจจุบันทำด้วย โพลีเอธิลีน สามารถแทรกแซงเข้าไปในซอกระหว่างฟันเพื่อกำจัดเศษอาหารได้ ไหมขัดฟันเป็นที่นิยมมาก

และได้รับการยอมรับว่าเป็นอุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพที่สุดชนิดหนึ่งในการทำความสะอาดเศษอาหารหรือคราบแบคทีเรียที่ติดอยู่ตามซอกฟัน ก่อนจะกลายเป็นคราบหินปูน ซึ่งเป็นคราบแข็งก่อตัวขึ้นที่ฟันและจำเป็นต้องไปพบทันตแพทย์เพื่อกำจัดคราบหินปูน การใช้ไหมขัดฟันอย่างสม่ำเสมอทุกวันและถูกวิธีจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดฟันผุหรือโรคทางทันตกรรมอื่น ๆ ได้ นอกจากนี้ยังไม่ทำให้เกิดฟันห่างอีกด้วย ซึ่งดีกว่าการใช้ไม้จิ้มฟันในการแคะเศษอาหาร เพราะการใช้ไม้จิ้มฟันนั้นจะส่งผลเสียต่อสภาพฟันอาจจะทำให้ฟันเกิดความห่าง และยังทำให้เกิดการอักเสบได้ หากแคะแรงเกิดไป อาจจะทำให้เลือดออกได้ด้วย

สำหรับข้อดีในการใช้ไหมขัดฟันทำความสะอาดช่องปากและฟันนั้น มีอยู่หลายข้อเลยทีเดียว เพราะไหมขัดฟัน จะช่วยขจัดเศษอาหารที่ติดอยู่ตามซอกเหงือกและฟัน ในที่ที่การแปรงฟันไม่สามารถเข้าถึง ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่อาจทำให้ลมหายใจมีกลิ่นเหม็น คราบแบคทีเรียก่อตัวขึ้นบนผิวฟันและเหงือก ฟันผุ โรคเหงือก รวมถึงโรคปริทันต์ที่ทำให้เกิดอาการเหงือกอักเสบเรื้อรัง เหงือกบวม ระคายเคือง หากปล่อยทิ้งไว้และไม่ได้รับการรักษาจะสามารถทำให้เหงือกร่นและสูญเสียฟันได้ในที่สุด

นอกจากนี้ การเลือกใช้ไหมขัดฟันก็สำคัญมากเช่นกัน ผู้เข้ารับการรักษาควรจะเลือกไหมขัดฟัน ชนิดที่มีเส้นไหมขนาดเล็ก แบน และแผ่ออกได้เมื่อผ่านซอกฟัน สำหรับผู้ที่ไม่เคยใช้ อาจเลือกใช้ไหมขัดฟันชนิดเคลือบขี้ผึ้งเพื่อความสะดวกในการใช้งาน หากใช้จนชำนาญแล้วอาจเลือกใช้ไหมขัดฟันชนิดไม่เคลือบขี้ผึ้ง เพราะมีความคมมากกว่า สามารถขจัดคราบหินปูนเกิดใหม่ได้ดีกว่า หรือปรึกษาทันตแพทย์ในการเลือกใช้ไหมขัดฟันให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล เพื่อป้องกันการเกิดโรคเหงือก

โดยเฉพาะผู้ที่แปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันอย่างสม่ำเสมอ จะมีโอกาสของการเลือดออกที่เหงือกและการอักเสบของเหงือกได้น้อยกว่าผู้ที่ไม่ใช้ไหมขัดฟันอีกด้วย เห็นมั้ยละคะว่า ไหมขัดฟันนั้นมีประโยชน์มาก และการจัดฟันแบบใส ก็สามารถใช้ไหมขัดฟันร่วมกับการทำความสะอาดช่องปากได้โดยไม่มีปัญหา ทั้งยังช่วยส่งผลให้ผู้เข้ารับการรักษามีสุขภาพช่องปากที่ดีอีกด้วย

6
พูดคุยเรื่องทั่วไป / หมอออนไลน์: ภาวะไตวาย (Renal failure)
« เมื่อ: วันที่ 13 ตุลาคม 2025, 18:43:51 น. »
หมอออนไลน์: ภาวะไตวาย (Renal failure)

ภาวะไตวาย (ไตล้ม ไตไม่ทำงาน ก็เรียก) หมายถึงภาวะที่เนื้อไตทั้ง 2 ข้างถูกทำลายจนทำงานไม่ได้ หรือได้น้อยกว่าปกติ ทำให้น้ำและของเสียไม่ถูกขับออกมา จึงเกิดการคั่งจนเป็นพิษต่อร่างกาย นอกจากนี้ยังทำให้เกิดผลกระทบต่อดุลของอิเล็กโทรไลต์ และความเป็นกรดด่างในเลือด รวมทั้งเกิดภาวะพร่องฮอร์โมนบางชนิดที่ไตสร้าง การเปลี่ยนแปลงทั้งหมดนี้นำไปสู่อาการผิดปกติของอวัยวะแทบทุกส่วนของร่างกาย

ภาวะไตวายสามารถแบ่งเป็น ไตวายเฉียบพลัน (มีอาการเกิดขึ้นฉับพลัน และเป็นอยู่นานเป็นวันและเป็นสัปดาห์) กับ ไตวายเรื้อรัง (ค่อย ๆ เกิดขึ้นทีละน้อยนานเป็นแรมเดือนแรมปี)

โรคนี้จัดเป็นภาวะที่มีอันตรายร้ายแรง พบได้บ่อยในผู้ใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งไตวายเรื้อรัง จะพบได้บ่อยขึ้นในคนที่มีอายุมากขึ้น เนื่องจากจะมีโอกาสเจ็บป่วยด้วยโรคต่าง ๆ (เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน โรคไต โรคติดเชื้อ เป็นต้น) ที่มีภาวะแทรกซ้อนต่อไต หรือมีการใช้ยาที่มีพิษต่อไตมากขึ้น
 

สาเหตุ

ไตวายเฉียบพลัน (acute renal failure) อาจมีสาเหตุมาจากโรคไตโดยตรงหรือภาวะผิดปกติที่อยู่นอกไต ซึ่งส่งผลกระทบต่อการทำงานของไตก็ได้ เช่น

    ภาวะช็อกจากปริมาตรของเลือดลดลง ทำให้เลือดไปเลี้ยงไตน้อยลง เช่น การตกเลือด การสูญเสียน้ำ ตับอ่อนอักเสบเฉียบพลัน เป็นต้น
    โรคหัวใจและหลอดเลือดที่มีผลทำให้เลือดไปเลี้ยงไตน้อยลง เช่น โรคกล้ามเนื้อหัวใจตาย ภาวะหัวใจวาย ความดันโลหิตสูงรุนแรง
    การติดเชื้อรุนแรง เช่น มาลาเรีย เล็ปโตสไปโรซิส ภาวะโลหิตเป็นพิษ
    โรคไต เช่น หน่วยไตอักเสบเฉียบพลัน กรวยไตอักเสบเฉียบพลัน
    ความผิดปกติของหลอดเลือดในไต เช่น หลอดเลือดแดงไตตีบ (renal artery stenosis) ภาวะมีสิ่งหลุดอุดตันในหลอดเลือดแดงไต (renal embolism)
    การอุดกั้นของทางเดินปัสสาวะ เช่น นิ่วในทางเดินปัสสาวะ ท่อไตถูกผูกโดยความเผอเรอจากการผ่าตัดในช่องท้อง ต่อมลูกหมากโต ท่อปัสสาวะตีบ เนื้องอกกระเพาะปัสสาวะ มะเร็งปากมดลูก เป็นต้น
    งูพิษกัด เช่น งูแมวเซาหรืองูทะเลกัด
    ต่อต่อย ผึ้งต่อย
    ผลข้างเคียงจากยาหรือสารเคมี เช่น ยาต้านอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ ยาต้านเอซ ซัลฟา คาน่าไมซิน เจนตาไมซิน อะมิคาซิน ไซโคลสปอรีน แอมโฟเทอริซินบี สารไอโอดีนที่ใช้ฉีดในการตรวจเอกซเรย์พิเศษ เป็นต้น
    ภาวะแทรกซ้อนจากการตั้งครรภ์ เช่น ครรภ์เป็นพิษ รกลอกตัวก่อนกำหนด
    อื่น ๆ เช่น ภาวะเม็ดเลือดแดงแตก ตับวาย

ไตวายเรื้อรัง (chronic renal failure) ส่วนใหญ่มักเกิดจากภาวะแทรกซ้อนของเบาหวานและความดันโลหิตสูงที่ขาดการรักษาอย่างจริงจัง

อาจเกิดจากโรคไตเรื้อรัง เช่น หน่วยไตอักเสบ กรวยไตอักเสบเรื้อรัง โรคไตเนโฟรติก นิ่วไต โรคถุงน้ำไตชนิดหลายถุง*

นอกจากนี้ ยังอาจเกิดจากโรคเกาต์ เอสแอลอี ภาวะยูริกในเลือดสูง ภาวะแคลเซียมในเลือดสูง โรคเอดส์ พิษจากยา (เช่น ยาแก้ปวด ลดไข้-เฟนาซิติน ยาต้านอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ ลิเทียมไซโคลสปอรีน ยาต้านมะเร็ง เป็นต้น) พิษจากสารตะกั่วหรือแคดเมียม เป็นต้น

*ถุงน้ำไตชนิดหลายถุง (polycystic kidney) มีลักษณะเป็นถุงน้ำ (cyst) จำนวนมากซึ่งพบที่ไตทั้ง 2 ข้าง เป็นความผิดปกติที่เป็นมาแต่กำเนิดซึ่งถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์ ถุงน้ำจะค่อย ๆ โตขึ้นเบียดเนื้อไตที่ปกติจนไตทำหน้าที่ผิดปกติ ซึ่งมักปรากฏอาการแสดงของโรคเมื่ออายุมากขึ้น ผู้ป่วยมักมีภาวะความดันโลหิตสูง มีการติดเชื้อของทางเดินปัสสาวะ (รวมทั้งภายในถุงน้ำ) บ่อย และเกิดภาวะไตวายเรื้อรังในที่สุด


อาการ

ไตวายเฉียบพลัน อาการเด่นชัด คือ มีปัสสาวะออกน้อยกว่า 400 มล. ใน 24 ชั่วโมง หรือไม่มีปัสสาวะออกเลย (ไม่มีอาการปวดปัสสาวะ และสวนปัสสาวะก็ไม่มีปัสสาวะออกมากกว่านี้) ต่อมาไม่นานผู้ป่วยจะมีอาการอ่อนเพลีย เบื่ออาหาร คลื่นไส้อาเจียน ถ้าปล่อยทิ้งไว้ไม่รักษา ในที่สุดผู้ป่วยจะมีอาการซึม สับสน ชัก และหมดสติ

ผู้ป่วยอาจมีประวัติการใช้ยาหรือมีอาการเจ็บป่วยนำมาก่อน เช่น ไข้ ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคไต โรคตับ งูกัด ต่อต่อย ตกเลือด ภาวะช็อกจากสาเหตุต่าง ๆ เป็นต้น

ไตวายเรื้อรัง อาการขึ้นกับความรุนแรงของโรค โดยในระยะแรกอาจไม่มีอาการให้สังเกตได้ชัดเจน และมักจะตรวจพบจากการตรวจเลือด (พบว่ามีระดับครีอะตินีนและบียูเอ็นสูง) ในขณะตรวจเช็กสุขภาพ หรือมาพบแพทย์ด้วยโรคอื่น

ผู้ป่วยจะมีอาการชัดเจนเมื่อเนื้อไตทั้ง 2 ข้างถูกทำลายจนทำหน้าที่ได้น้อยกว่าร้อยละ 5 ของไตปกติ โดยจะสังเกตว่ามีปัสสาวะออกมาก และปัสสาวะบ่อยตอนกลางคืน ผู้ป่วยจะมีอาการอ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย เบื่ออาหาร คลื่นไส้อาเจียน ท้องเดินบ่อย นอนไม่หลับ ปวดศีรษะ ขาดสมาธิ ตามัว ผิวหนังแห้งและมีสีคล้ำ คันตามผิวหนัง ชาตามปลายมือปลายเท้า

บางรายอาจมีอาการหอบเหนื่อย สะอึก เป็นตะคริว ใจหวิว ใจสั่น เจ็บหน้าอก บวม หรือมีเลือดออกตามผิวหนังเป็นจุดแดงจ้ำเขียว หรืออาเจียนเป็นเลือด ถ่ายเป็นเลือด

เมื่อเป็นถึงขั้นสุดท้าย ผู้ป่วยจะมีอาการซึม ชัก หมดสติ


ภาวะแทรกซ้อน

ไตวายเฉียบพลัน เนื่องจากไตขับน้ำไม่ได้ ทำให้เกิดการคั่งของน้ำในกระแสเลือด (hypervolemia) เป็นผลทำให้เกิดความดันโลหิตสูง และภาวะหัวใจวายตามมา

นอกจากนี้ยังเกิดภาวะโพแทสเซียมในเลือดสูง (เนื่องจากไตขับสารนี้ได้น้อยลง) อาจทำให้หัวใจเต้นผิดจังหวะหรือหยุดเต้นได้ ภาวะเลือดเป็นกรด (เนื่องจากขับกรดที่ได้จากการเผาผลาญโปรตีนได้น้อยลง) ทำให้มีอาการหายใจหอบลึก ภาวะแทรกซ้อนทางสมอง (เช่น ซึม ชัก) เนื่องจากภาวะยูรีเมีย (uremia) ภาวะเลือดออกง่าย เนื่องจากเกล็ดเลือดไม่จับตัว ทำให้มีเลือดออกง่าย อาเจียนหรือถ่ายเป็นเลือด เยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ (pericarditis) เกิดจากการคั่งของสารบียูเอ็น (บียูเอ็นมากกว่า 100 มก./ดล.) จะมีอาการไข้สูง เจ็บหน้าอก ภาวะติดเชื้อง่าย เนื่องจากภูมิคุ้มกันต่ำ อาจทำให้เกิดภาวะโลหิตเป็นพิษตามมา

ภาวะแทรกซ้อนดังกล่าวข้างต้นล้วนมีอันตรายร้ายแรงถึงชีวิตได้ นอกจากนี้ยังอาจพบภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ที่มีความรุนแรงไม่มาก ได้แก่ ภาวะซีดเนื่องจากไตสร้างสาร อีริโทรพอยเอทิน (erythropoietin) ไม่ได้ สารนี้มีความสำคัญต่อการสร้างเม็ดเลือดแดง เมื่อขาดก็ทำให้สร้างเม็ดเลือดแดงได้ไม่ดี ภาวะฟอสเฟตในเลือดสูง ภาวะแคลเซียมในเลือดต่ำ ทำให้เกิดอาการมือจีบเกร็ง เป็นตะคริว ภาวะแมกนีเซียมในเลือดสูง ภาวะยูริกในเลือดสูง

ไตวายเรื้อรัง นอกจากจะพบภาวะแทรกซ้อนแบบเดียวกับไตวายเฉียบพลันแล้ว ยังอาจพบปอดอักเสบ เยื่อหุ้มปอดอักเสบ ปลายประสาทอักเสบ (ชาปลายมือปลายเท้า) โรคกระเพาะ ภาวะไตรกลีเซอไรด์ในเลือดสูง ภาวะต่อมพาราไทรอยด์ทำงานมากเกิน (hyperparathyroidism) ภาวะกระดูกอ่อน (osteomalacia) ต่อมอัณฑะทำงานน้อย ภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศในผู้ชาย (องคชาตไม่แข็งตัว) ประจำเดือนผิดปกติ หรือประจำเดือนขาด

การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยเบื้องต้นจากอาการ ประวัติการเจ็บป่วย และการตรวจร่างกาย

ไตวายเฉียบพลัน อาจตรวจไม่พบอะไร นอกจากอาการของโรคที่เป็นสาเหตุ (เช่น ความดันต่ำและชีพจรเร็วในผู้ป่วยที่มีภาวะช็อก อาการดีซ่านในผู้ป่วยโรคตับ ไข้ในผู้ป่วยมาลาเรียหรือโรคติดเชื้อ เป็นต้น)

บางรายอาจพบอาการซีด หายใจหอบลึก ความดันโลหิตสูง มือจีบเกร็งหรือเป็นตะคริว หรือใช้เครื่องฟังตรวจปอดได้ยินเสียกรอบแกรบ (crepitation)

ในระยะท้าย อาจพบอาการซึม ชัก หมดสติ

ไตวายเรื้อรัง จะมีสิ่งตรวจพบเมื่อเป็นโรคในระยะรุนแรงมากแล้ว ได้แก่ อาการซีด ความดันโลหิตสูง ผิวหนังแห้งและมีสีคล้ำ จุดแดงจ้ำเขียวตามผิวหนัง

บางรายอาจพบอาการเท้าบวม (กดบุ๋ม) ชีพจรเต้นไม่สม่ำเสมอ หรือใช้เครื่องฟังตรวจปอดได้ยินเสียงกรอบแกรบ (crepitation)

แพทย์จะทำการวินิจฉัยให้แน่ชัดโดยการตรวจเลือด (พบระดับบียูเอ็นและครีอะตินีนสูงกว่าปกติ ยิ่งสูงมากก็แสดงว่าโรคยิ่งรุนแรง ระดับโพแทสเซียมฟอสเฟตและแมกนีเซียมสูง ระดับแคลเซียมต่ำ เลือดมีภาวะเป็นกรด ระดับฮีโมโกลบินต่ำ) ตรวจปัสสาวะ (พบสารไข่ขาว น้ำตาล เม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาว) เอกซเรย์ อัลตราซาวนด์ และตรวจพิเศษอื่น ๆ บางรายอาจต้องทำการตรวจชิ้นเนื้อไต (renal biopsy) โดยการเจาะเอาเนื้อเยื่อไตไปตรวจ

การรักษาโดยแพทย์

แพทย์จะให้การดูแลรักษา ดังนี้

1. ไตวายเฉียบพลัน แพทย์จะรับไว้รักษาในโรงพยาบาล ให้การรักษาโรคหรือภาวะที่เป็นสาเหตุ และแก้ไขภาวะผิดปกติต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น เช่น จำกัดปริมาณของน้ำ โซเดียม โพแทสเซียม แมกนีเซียม และโปรตีน ฉีดยาขับปัสสาวะ-ฟูโรซีไมด์ ให้โซเดียมไบคาร์บอเนต แก้ภาวะเลือดเป็นกรด ให้เลือดในรายที่ตกเลือด เป็นต้น

ถ้าจำเป็นอาจต้องทำการฟอกล้างของเสียหรือล้างไต (dialysis)

ผลการรักษาขึ้นกับสาเหตุที่พบ ถ้าเกิดจากการอุดกั้นของทางเดินปัสสาวะ ภาวะช็อกจากปริมาตรของเลือดลดลง โรคติดเชื้อ พิษจากยาบางชนิด ก็อาจมีทางรักษาให้หายขาดได้ อย่างไรก็ตาม ภาวะไตวายเฉียบพลันมักเกิดขึ้นรวดเร็ว และมีภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง จึงมีโอกาสเป็นอันตรายถึงตายได้ค่อนข้างสูง

2. ไตวายเรื้อรัง ถ้ามีสาเหตุชัดเจนก็ให้รักษาโรคที่เป็นสาเหตุ (เช่น ให้ยาควบคุมโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคเกาต์ ผ่าตัดนิ่วในไต เป็นต้น)

นอกจากนี้ ยังต้องรักษาภาวะผิดปกติต่าง ๆ ที่เป็นผลมาจากไตวาย เช่น

    จำกัดปริมาณโปรตีนที่กินไม่เกินวันละ 40 กรัม (ไข่ไก่ 1 ฟอง มีโปรตีน 6-8 กรัม นมสด 1 ถ้วย มีโปรตีน 8 กรัม เนื้อสัตว์ 1 ขีด มีโปรตีน 23 กรัม)
    จำกัดปริมาณน้ำที่ดื่ม โดยคำนวณจากปริมาณปัสสาวะต่อวันบวกกับน้ำที่เสียไปทางอื่น (ประมาณ 800 มล./วัน) เช่น ถ้าผู้ป่วยมีปัสสาวะ 600 มล./วัน น้ำที่ควรได้รับเท่ากับ 600 มล.+800 มล. (รวมเป็น 1,400 มล./วัน) เป็นต้น
    จำกัดปริมาณโซเดียมที่กิน ถ้ามีอาการบวมหรือมีปัสสาวะน้อยกว่า 800 มล./วัน ควรงดอาหารเค็ม งดใช้เครื่องปรุง (เช่น น้ำปลา ซีอิ๊ว ซอสทุกชนิด) ผงชูรส สารกันบูด อาหารที่ใส่ผงฟู อาหารกระป๋อง น้ำพริก กะปิ ปลาร้า ของดอง หนำเลี้ยบ
    จำกัดปริมาณโพแทสเซียมที่กิน ถ้ามีปัสสาวะน้อยกว่า 800 มล./วัน ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีเกลือโพแทสเซียมสูง เช่น ผลไม้แห้ง ส้ม มะละกอ มะขาม มะเขือเทศ น้ำมะพร้าว ถั่ว สะตอ มันทอด หอย เครื่องในสัตว์ เป็นต้น

หลีกเลี่ยงการใช้ยาที่ทำให้โพแทสเซียมในเลือดสูง เช่น อะมิโลไรด์ (amiloride) ไตรแอมเทอรีน (triamterene) สไปโรโนแล็กโทน (spironolactone) ยาต้านเอซ ยาที่เข้าสารโพแทสเซียม เป็นต้น

    จำกัดปริมาณแมกนีเซียมที่กิน ด้วยการงดยาลดกรดที่มีเกลือแมกนีเซียมไฮดรอกไซด์
    ถ้ามีระดับฟอสเฟตในเลือดสูง หรือภาวะเลือดเป็นกรด ให้กินยาเม็ดแคลเซียมคาร์บอเนต (650 มก.) ครั้งละ 1 เม็ด วันละ 3 ครั้ง
    ถ้าบวม ให้ยาขับปัสสาวะ-ฟูโรซีไมด์
    ถ้ามีความดันโลหิตสูง ภาวะหัวใจวาย ก็ให้ยารักษาภาวะเหล่านี้
    ถ้าซีด อาจต้องให้เลือด บางรายแพทย์อาจสั่งให้ฉีดฮอร์โมนอีริโทรพอยเอทิน (erythropoietin) เพื่อกระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดแดง (ยานี้มีราคาแพง และอาจทำให้ความดันโลหิตสูง)

สำหรับผู้ป่วยที่ไตวายเรื้อรังระยะท้าย (มักมีระดับครีอะตินีนและบียูเอ็นในเลือดสูงเกิน 10 และ 100 มก./ดล. ตามลำดับ) การรักษาทางยาจะไม่ได้ผล จำเป็นต้องทำการฟอกล้างของเสียหรือล้างไต (dialysis) ซึ่งมีอยู่หลายวิธี ได้แก่

    การล้างไตผ่านทางช่องท้องอย่างต่อเนื่อง (continuous ambulatory peritoneal dialysis/CAPD) วิธีนี้แพทย์สามารถฝึกให้ผู้ป่วยทำเองที่บ้านได้ นับว่าสะดวก แต่ต้องทำการเปลี่ยนถุงน้ำยาวันละ 4 ครั้ง ทุก ๆ วันตลอดไป และแพทย์จะนัดมาเปลี่ยนสายน้ำยาที่ใช้ฟอกล้างของเสียทุก 1 เดือน ผู้ป่วยสามารถทำงานและปฏิบัติภารกิจได้เหมือนคนปกติ
    การล้างไตโดยการฟอกเลือด (hemodialysis) นิยมเรียกว่า การล้างไตด้วยเครื่องไตเทียม หรือการทำไตเทียม ผู้ป่วยต้องไปทำที่โรงพยาบาลสัปดาห์ละ 2 ครั้ง

การทำการล้างไตทั้ง 2 วิธี จะช่วยให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดี (สามารถทำงาน ออกกำลังกาย และมีเพศสัมพันธ์ได้เช่นคนปกติ) มีชีวิตยืนยาวขึ้น บางรายอาจอยู่ได้นานเกิน 10 ปีขึ้นไป แต่ค่าใช้จ่ายค่อนข้างแพง

ผู้ป่วยไตวายเรื้อรังระยะท้ายบางราย แพทย์อาจพิจารณาทำการผ่าตัดปลูกถ่ายไตหรือเปลี่ยนไต (renal transplantation) ซึ่งนับว่าเป็นวิธีรักษาที่ได้ผลดีที่สุดในปัจจุบัน สามารถช่วยให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีเหมือนคนปกติ และมีอายุยืนยาว (อายุการทำงานของไตใหม่ ร้อยละ 18-55 อยู่ได้นาน 10 ปี) แต่การปลูกถ่ายไตเป็นวิธีรักษาที่ยุ่งยาก ราคาแพง และจะต้องหาไตจากญาติสายตรงหรือผู้บริจาคที่มีไตเข้าได้กับเนื้อเยื่อของผู้ป่วย ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย ผู้ป่วยอาจต้องทำการล้างไตไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะหาไตที่เข้ากันได้ นอกจากนั้นภายหลังการปลูกถ่ายไต ผู้ป่วยต้องกินยากดภูมิคุ้มกัน (เช่น สเตียรอยด์ ไซโคลสปอริน อะซาไทโอพรีน) ทุกวันตลอดไป เพื่อป้องกันมิให้ร่างกายมีปฏิกิริยาต่อต้านไตใหม่


การดูแลตนเอง

หากสงสัย เช่น มีอาการอ่อนเพลีย ซีด เบื่ออาหาร คลื่นไส้อาเจียน ตามปลายมือปลายเท้าเป็นตะคริว เท้าบวม หรือมีเลือดออกตามผิวหนังเป็นจุดแดงจ้ำเขียว เป็นต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้สูงอายุ ผู้ที่เป็นโรคเรื้อรัง (เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง เกาต์ โรคไต) หรือมีประวัติใช้ยาแก้ปวด หรือแก้ข้ออักเสบมานาน ควรปรึกษาแพทย์

เมื่อตรวจพบว่าเป็นไตวาย ควรดูแลตนเอง ดังนี้

    รักษา กินยา และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์
    ติดตามรักษากับแพทย์ตามนัด
    ไม่ควรปรับขนาดยาเอง หรือซื้อยากินเอง เพราะยาบางชนิดอาจมีพิษต่อไต หรืออาจต้องปรับลดขนาดยาลงจากที่ใช้ในคนปกติ รวมทั้งไม่ควรกินยาหม้อหรือยาต้มที่ประกอบด้วยสมุนไพรชนิดต่าง ๆ เพราะอาจทำให้ระดับโพแทสเซียมในเลือดสูง การใช้ยาเองอย่างผิด ๆ อาจทำให้เกิดอันตราย

ควรกลับไปพบแพทย์ก่อนนัด ถ้ามีลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้

    มีอาการอ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย หายใจหอบ เบื่ออาหาร คลื่นไส้อาเจียน เท้าบวม เป็นตะคริว ซึม ชัก มีเลือดออก หรือมีอาการไม่สบาย (เช่น ไข้ ปวดท้อง ท้องเดิน  เป็นต้น)
    ขาดยา ยาหาย หรือกินยาไม่ได้
    กินยาแล้วสงสัยเกิดผลข้างเคียงจากยา เช่น มีลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม ปากบวม ปวดท้อง ท้องเดิน คลื่นไส้ อาเจียน จุดแดงจ้ำเขียว หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ

การป้องกัน

1. ตรวจเช็กดูว่าเป็นความดันโลหิตสูง เบาหวาน และโรคเกาต์หรือไม่ ถ้าเป็นต้องรักษาอย่างจริงจังและต่อเนื่องจนสามารถควบคุมระดับความดันโลหิต ระดับน้ำตาลและยูริกในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ

2. เมื่อเป็นโรคติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ (เช่น กระเพาะปัสสาวะอักเสบ กรวยไตอักเสบ) หรือมีภาวะอุดกั้นทางเดินปัสสาวะ (เช่น นิ่ว ต่อมลูกหมากโต) จะต้องทำการรักษาให้หายขาด

3. เมื่อป่วยเป็นโรคติดเชื้อ งูกัด หรือท้องเดิน ต้องรีบรักษา อย่าปล่อยจนเกิดภาวะช็อก ซึ่งมีผลทำให้ไตวายตามมาได้

4. หลีกเลี่ยงการใช้ยาที่อาจมีพิษต่อไต และระมัดระวังการใช้ยาในผู้ป่วยที่มีเลือดไปเลี้ยงไตไม่ดี (เช่น ตับแข็ง หัวใจวาย หลอดเลือดแดงไตตีบ ภาวะช็อกจากปริมาตรของเลือดลดลง)

ข้อแนะนำ

1. ผู้ป่วยไตวายเรื้อรัง ควรติดต่อกับแพทย์อย่าได้ขาด ควรกินยาและปฏิบัติตัว รวมทั้งการควบคุมอาหารตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด จะช่วยให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี และมีอายุยืนยาวต่อไปอีกนาน

2. ไตวายเป็นภาวะที่มีภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงต่อร่างกาย ถ้าเป็นเรื้อรังมักจะมีความยุ่งยากและสิ้นเปลืองในการรักษา ดังนั้น จึงควรหาทางป้องกันมิให้เป็นโรคนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ที่เป็นโรคเบาหวานหรือความดันโลหิตสูง ควรรักษาตัวอย่างจริงจังจนสามารถควบคุมโรคได้ จะได้ลดความเสี่ยงต่อการเป็นไตวายแทรกซ้อน

3. การปลูกถ่ายไตเป็นวิธีรักษาภาวะไตวายเรื้อรังระยะท้ายที่ดีที่สุดในปัจจุบัน จึงควรรณรงค์ให้ผู้คนทั่วไปหันมาบริจาคไตกันให้มากขึ้น จะได้มีไตบริจาคช่วยเหลือให้ผู้ป่วยพ้นจากความทุกข์ทรมาน และมีคุณภาพชีวิตที่ดีเช่นคนปกติ

คุณสมบัติของผู้ป่วยที่จะรับการปลูกถ่ายไต

    อายุไม่เกิน 55 ปี ถ้าอายุมากการผ่าตัดมักจะไม่ค่อยได้ผลเนื่องจากหลอดเลือดแข็ง
    ไม่มีโรคที่สำคัญ เช่น โรคหัวใจ โรคปอด โรคตับ โรคมะเร็ง เป็นต้น
    ไม่เป็นโรคติดเชื้อ เนื่องจากหลังปลูกถ่ายไต ผู้ป่วยต้องกินยากดภูมิคุ้มกัน อาจทำให้โรคติดเชื้อลุกลามรุนแรงได้
    มีจิตใจหนักแน่นมั่นคง เพราะหลังผ่าตัดอาจมีภาวะแทรกซ้อนได้หลายอย่าง จึงต้องพร้อมที่จะต่อสู้กับปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นได้
    มีความมุ่งมั่นในการรักษาสุขภาพให้ดี และสามารถปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการกินยาอย่างเคร่งครัด


7
รถรับจ้างใกล้ฉัน นครสวรรค์ บริการครบครัน รถ คนยก บริการถอดประกอบ รวมทุกอย่างในที่เดียว

ถ้าคุณกำลังมองหาบริการ รถรับจ้างนครสวรรค์ ที่ครบวงจรและครอบคลุมทุกความต้องการด้านการขนส่ง ขอเป็นตัวเลือกที่คุณมั่นใจได้ เราให้บริการโดยทีมงานมืออาชีพที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในด้านการขนส่ง พร้อมดูแลคุณในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การวางแผนจัดเตรียมรถที่เหมาะสม การขนย้ายสิ่งของอย่างระมัดระวัง ไปจนถึงการจัดส่งถึงจุดหมายปลายทางอย่างปลอดภัยและตรงเวลา ไม่ว่าจะเป็น รถรับจ้างขนาดต่างๆ ทีมคนยกของมืออาชีพ บริการถอด-ประกอบเฟอร์นิเจอร์ และการจัดการขนย้ายที่รวดเร็วและปลอดภัยค่ะ

   
รถรับจ้างนครสวรรค์

การขนย้ายอาจเป็นเรื่องที่ดูซับซ้อนและใช้เวลามาก แต่ขนส่ง ช่วยให้ทุกขั้นตอนง่ายขึ้น ตั้งแต่การวางแผน การเลือกรถ ไปจนถึงการจัดการด้านการขนส่งที่ปลอดภัยและตรงเวลา อย่างไรก็ตาม รถรับจ้างนครสวรรค์ พร้อมเป็นตัวช่วยสำคัญที่ทำให้ทุกขั้นตอนของการขนย้ายเป็นเรื่องง่ายค่ะ ด้วยประสบการณ์อันยาวนานในวงการขนส่ง นอกจากนี้ เรายังมีบริการ ครบวงจร ที่ตอบสนองทุกความต้องการ ไม่ว่าจะเป็น รถกระบะรับจ้าง รถ 6 ล้อ รถ 10 ล้อ รถเทรลเลอร์ หรือรถเฮี๊ยบรับจ้าง สำหรับงานขนย้ายที่ซับซ้อน พร้อมอุปกรณ์พิเศษที่ช่วยให้การขนย้ายปลอดภัย ด้วยมาตรฐานการบริการที่เชื่อถือได้และทีมงานที่พร้อมให้คำปรึกษาขนส่ง ช่วยให้การขนย้ายของคุณสะดวกสบาย ประหยัดเวลา เพื่อทำให้ทุกการขนย้ายของคุณง่ายขึ้นกว่าที่เคยค่ะ

   
รถรับจ้างนครสวรรค์ บริการครบครัน

บริการครบวงจรที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการด้านการขนส่ง ไม่ว่าคุณจะมีความต้องการขนย้ายประเภทใด เราพร้อมให้บริการเต็มรูปแบบ ด้วยตัวเลือกยานพาหนะหลากหลายประเภท ที่สามารถตอบสนองงานขนส่งได้ทุกขนาดและทุกประเภทของสินค้า

1. การขนย้ายบ้าน

    เหมาะสำหรับผู้ที่กำลัง ย้ายบ้าน ย้ายคอนโด หรือย้ายหอพัก
    ทีมงานมืออาชีพพร้อมช่วยบรรจุของ ขนย้าย และจัดเรียงอย่างเป็นระเบียบ
    มีอุปกรณ์เสริม เช่น กล่อง กระดาษห่อ และสายรัด เพื่อความปลอดภัยของทรัพย์สิน

2. การขนส่งสินค้า

    บริการขนส่งสินค้าทั้งรายย่อยและรายใหญ่
    รองรับการส่งพัสดุขนาดใหญ่ วัสดุก่อสร้าง เครื่องจักร และสินค้าอุตสาหกรรม
    การันตีความปลอดภัยและการจัดส่งตรงเวลา

3. การขนย้ายของขนาดใหญ่

    เหมาะสำหรับการย้ายสิ่งของที่มีขนาดใหญ่หรือมีน้ำหนักมาก เช่น เครื่องจักรกลหนัก ต้นไม้ใหญ่ หรือเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่
    พร้อมรถและอุปกรณ์พิเศษเพื่อการขนย้ายที่มีประสิทธิภาพ

   
รถรับจ้างนครสวรรค์ ใกล้ฉัน

แม้ว่า รถรับจ้างนครสวรรค์ อาจจะมีจำนวนที่น้อยกว่าจังหวัดอื่น ๆ แต่ยังคงพร้อมที่จะให้บริการคุณอย่างเต็มที่ ไม่ว่าคุณจะต้องการ รถรับจ้างนครสวรรค์ ใกล้ฉัน ในช่วงเวลาใด เราก็สามารถจัดหารถให้คุณได้ตามต้องการ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการขาดแคลนรถหรือความล่าช้า การจองล่วงหน้ากับขนส่ง จะช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่าเราจะสามารถจัดหารถตามวันที่และเวลาที่คุณต้องการได้อย่างแน่นอน ซึ่งเป็นการลดความเสี่ยงจากการที่อาจไม่มีรถว่างในช่วงเวลาที่ต้องการได้ และยังช่วยให้คุณมีเวลาจัดการกับสิ่งต่าง ๆ ได้ดีขึ้นอีกด้วย ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนในจังหวัดนครสวรรค์ หรือจะขนย้ายในพื้นที่ใกล้เคียง เราพร้อมให้บริการคุณอย่างมืออาชีพและรวดเร็วทุกครั้งที่คุณต้องการค่ะ

   
รถรับจ้างนครสวรรค์ ราคาถูก

ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ต้องการจองบริการ รถรับจ้างนครสวรรค์ ราคาถูก ง่ายๆ กับเรา สามารถดำเนินการได้ ดังนี้

    ติดต่อเรา : โทรศัพท์หรือแชทสอบถามรายละเอียด
    ระบุความต้องการ : ประเภทของรถ วันที่ และปลายทาง
    ประเมินราคา : ชัดเจน ไม่มีค่าใช้จ่ายแอบแฝง
    รับบริการ : ทีมงานของเราจะเตรียมพร้อมเพื่อมอบการบริการที่ดีที่สุด

ไม่ว่าคุณจะย้ายของมากหรือน้อย เราพร้อมช่วยให้คุณประหยัดทั้งเวลาและแรงงาน ด้วยบริการที่ออกแบบมาเพื่อความสะดวกของลูกค้าค่ะ เลือกเราเพื่อความมั่นใจ ขนส่ง เราใส่ใจในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การวางแผนจนถึงการส่งมอบของที่ปลายทาง เพื่อให้มั่นใจว่าทุกการขนย้ายจะราบรื่น ปลอดภัย และเป็นประสบการณ์ที่น่าพึงพอใจที่สุดค่ะ

8
“สร้างเงินแสนจากครัวที่บ้าน” สไตล์ครูแมกซ์

จุดเริ่มต้นเพียงแค่ไม่มีใจรักการเป็นลูกน้อง และไม่ชอบการทำงานในองค์กร บวกกับมีความตั้งใจที่ว่า อยากฝึกทักษะการทำอาหารไว้ทำให้คุณพ่อคุณแม่ทานตอนท่านแก่
พร้อมกับคำพูดของคุณแม่ที่ชอบบอกว่า “การขายของมันได้จับเงินทุกวัน” นั่นคือจุดตัดสินใจ

ครูแมกซ์
จุดเริ่มต้นง่ายๆก็เริ่มจากการเรียนรู้จากคุณแม่ของครูแมกซ์เอง ท่านเป็นคนทำอาหารไทยอร่อย และเคยเปิดร้านอาหารมาก่อนตอนครูแมกซ์เด็กๆ
โดยใช้การถาม สังเกตอย่างละเอียด และฝึกชิมรสชาติของอาหารที่แท้จริง (เพราะคุณแม่ไม่เคยชั่งตวงวัดแม่บอกชิมให้เป็นไม่ต้องมาถามสูตร555)
ร่วมกับการเรียนรู้ผ่านสื่อออนไลน์ เช่น ยูทูป ดูทุกวันตลอดระยะเวลา 8-10ปี พร้อมกับการซื้อวัตถุดิบมาลงมือทำจริง ชิมจริง ทำให้คคุณแม่ทานจริง

ครูแมกซ์
จนถึงจุดที่มั่นใจแล้วว่า…จะทำอาหารเพื่อสร้างรายได้เริ่มง่ายๆจากครัวที่บ้าน
จากประสบการณ์ตลอดระยะเวลา15ปี ที่ครูแมกซ์มีรายได้จากอาหาร ไม่ว่าจะเป็นการยืนขายสลัดริมถนนหน้าตึกชาญอิสะ2 เปิดรับออเดอร์ลุกค้าในหมู่บ้าน การพรีออเดอร์ผ่านทางโซเชียลมีเดีย หรือแม้กระทั่งการออกบูทตามห้างดังต่างๆ

ทั้งหมดนี้ผ่านการทำจริง ได้ผลลัพธ์จริงมาทั้งหมดแล้วด้วยตัวครูแมกซ์เองคนเดียว (แบบไม่เลือกการมีลูกน้อง)

จึงมั่นใจมากว่าจากประสบการณ์ทั้งหมดที่ครูแมกซ์สั่งสมมาตลอดจนถึงวันนี้

ไข่เจียว
ครูแมกซ์ได้พิสูจน์แล้วว่า…การสร้างเงินแสนจากครัวที่บ้าน “มันทำได้จริง”
ครูแมกซ์ก็พร้อมที่จะถ่ายทอดทุกสูตรลัด แบไต๋ทุกเคล็ดลับให้คุณแบบหมดเปลือก!!  !!ความตั้งใจนั้นมันก็ได้เกิด”ผลลัพธ์”กับลูกศิษย์ครูแมกซ์เรียบร้อยแล้ว

📌น้องมิ้นท์ นักเรียนคอร์สไพรเวทจับมือทำรอบสด
ลาออกจากงานประจำเพื่อมาเปิดร้านขายอาหาร หลังจากเรียนกับครูแมกซ์ไปเพียงแค่3วัน น้องได้จับเงินบาทแรกจากอาหารทันที!!
โดยเปิดรับพรีออเดอร์จากอาพาร์ทเมนต์ (โดยมีครูแมกซ์เป็นที่ปรึกษาตลอด1เดือนเต็ม) เริ่มจากเมนูง่ายๆที่ครูแมกซ์เลือกให้เป็นเมนูประจำร้าน คือ “เมนูไข่ฟูหมูฉ่ำนัว”

‼️ล่าสุดเพียงแค่ 2เดือน ยอดขายเดือนกุมภาพันธ์ 68
สรุปได้ยอดขาย 60,000 บาท (ทำด้วยตัวคนเดียว)

📌น้องเติ๊ด นักเรียนคอร์สออนไลน์
เป็นพนักงานประจำหัวหน้าแผนกHR อยากหาอาชีพเสริมเพื่อวางแผนลาออกจากงานประจำ หลังจากเรียนคอร์สครูแมกซ์ภายใน 7 วัน น้องได้จับเงินบาทแรกจากอาหารทันที!!
โดยเปิดรับออเดอร์ที่คอนโด เริ่มจากเมนูง่ายๆที่เรียนจากคอร์สสูตรกะเพรา กับ คอร์ส10เมนูไข่ทำง่ายรายได้ปัง เมนูประจำร้าน คือ “เมนูข้าวไข่เจียว ไข่ข้น”
‼️ล่าสุดเพียงแค่ 2เดือน ยอดขายได้มากกว่าเงินเดือนประจำเป็นที่เรียนร้อยแล้ว พร้อมกับยื่นใบลาออก (แต่นายยังไม่อนุมัติ)


สนใจติดต่อสอบถามข้อมูล
ไลน์ ID  :  @krumax
Page FB : https://web.facebook.com/profile.php?id=61569480015186
เว็บไซด์ : https://krumax.net/krumaxcourse/
เบอร์โทร : 081-413-4479


9
พ่อแม่จะรู้ได้อย่างไร ว่าลูกสมควรจัดฟันเด็ก ?

การดูแลรักษาความสะอาดช่องปากและฟันของเด็กมีความสำคัญมาก พ่อแม่ควรดูแลเอาใจใส่ให้มากเป็นพิเศษ เนื่องจากในช่วงเด็กในเรื่องของสุขภาพฟันถือว่ามีความสำคัญมาก เพราะฟันจะอยู่กับเด็กไปตลอดชีวิต ดังนั้น การดูแลฟันตั้งแต่อายุยังน้อยจึงเป็นเรื่องที่จะต้องใส่ใจให้มาก ดังนั้น ทางทันตกรรมจึงมีนวัตกรรมใหม่ที่สามารถให้เด็กได้รับเข้ารับการจัดฟันได้ตั้งแต่อายุยังน้อย การให้การรักษาทางทันตกรรมจัดฟันนั้นมีหลายช่วงอายุ ซึ่งทันตแพทย์ ต้องพิจารณาตามความผิดปกติและพัฒนาการของกะโหลกศีรษะและใบหน้าร่วมด้วย เพราะเด็กบางคนมีปัญหาในเรื่องของโครงสร้างใบหน้าด้วย

โดยมีแนวทางพิจารณาก็คือ ถ้าหากเด็กมีความผิดปกติของความสัมพันธ์ของกระดูกขากรรไกรบนและล่าง ก็ควรจะเริ่มการบำบัดรักษาตั้งแต่อายุยังน้อยเพื่อป้องกันมิให้ปัญหาลุกลามได้ ซึ่งเราจะเห็นได้ว่าการจัดฟันเพื่อแก้บางปัญหาสามารถทำได้ตั้งแต่ในเด็ก ไม่ต้องรอฟันน้ำนมหลุดหมดก่อนหรือรอจนฟันแท้ขึ้นครบ การรักษาตั้งแต่เริ่มแรกอาจจะทำให้ใช้เวลาในการรักษาน้อยกว่า แล้วยังไม่ยุ่งยาก ลดค่าใช้จ่าย และได้ผลการรักษาที่ดีและมีประสิทธิภาพด้วย เพื่อให้เด็กได้รู้จักและทำความเข้าให้สำคัญเกี่ยวกับสุขภาพช่องปากและฟัน เพื่อที่จะได้ตระหนัก เอาใจใส่ในเรื่องของสุขภาพช่องปากและฟันให้มากขึ้น

เพราะฉะนั้น พ่อแม่ผู้ปกครองควรที่จะคอยสังเกตอาการผิดปกติในเรื่องของฟันของเด็กให้มาก เพราะการที่เด็กมีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดีนั้น ถือว่าเป็นสิ่งที่จะช่วยทำให้พัฒนาการเด็กดีขึ้นตามไปด้วย ถ้าหากพ่อแม่ผู้ปกครองสังเกตอาการผิดปกติของฟันของลูกและหากพบความผิดปกติก็ควรจะพาลูกเข้าพบทันตแพทย์เพื่อเข้ารับการจัดฟัน แต่พ่อแม่ผู้ปกครองจะรู้ได้อย่างไรว่าลูกควรที่จะเข้ารับการจัดฟัน

วันนี้มีข้อแนะนำเกี่ยวกับการสังเกตอาการผิดปกติของฟันของเด็กที่ควรที่จะเข้ารับการจัดฟันในเด็ก อย่างแรกเลยพ่อแม่ควรที่จะสังเกตว่า ลูกมีฟันเกฟันซ้อนหรือไม่ ซึงฟันเก ถือเป็นอีกหนึ่งสัญญาณที่ชัดเจนที่สุดที่บ่งบอกว่าลูกต้องการใช้เครื่องมือจัดฟันคือฟันที่งอกทับซ้อนกัน และอาการฟันล่างครอบฟันบนกับฟันเหยิน รวมถึงฟันที่ขึ้นมาอย่างคดงอและขึ้นมาแบบเบียดกันจนแออัดเกินไป ดังนั้น เครื่องมือจัดฟันสำหรับเด็กสามารถช่วยจัดฟันเพื่อแก้ไขปัญหาการสบฟันของเด็ก ต่อมาคือ ภาวะฟันน้ำนมที่หลุดเร็วเกินไป เพราะการสูญเสียฟันน้ำนมในช่วงแรกอาจเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติหรือจากการบาดเจ็บหรือความเจ็บป่วย เมื่อฟันแท้ไม่พร้อมที่จะขึ้นมาเติมเต็มช่องว่าง ฟันจึงเคลื่อนที่เพื่อเติมเต็มช่องว่างด้วยตนเอง ทันตแพทย์จะต้องใช้เครื่องมือจัดฟันเพื่อป้องกันฟันแท้ของพวกเขาไม่ให้ขึ้นมาแบบคดงอหรือขึ้นมาแบบทับซ้อนกัน เพื่อที่จะได้แก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

และข้อสุดท้ายที่พ่อแม่ควรที่คอยสังเกตให้ดีก็คือ พฤติกรรมที่ผิดปกติในวัยเด็ก ก็คือพฤติกรรมดูดนิ้ว หากเด็กยังไม่ถึงอายุก่อนวัยเรียน ก็อาจจะยังเป็นที่ยอมรับได้ที่เด็กจะยังคงดูดนิ้วหัวแม่มืออยู่ แต่ในทางตรงกันข้าม ถ้าเด็กมีอายุมากกว่า 4 หรือ 5 ปี แต่ยังมีพฤติกรรมติดดูดนิ้วอยู่ พ่อแม่อาจต้องพาลูกไปพบทันตแพทย์ทันที เพราะการที่เด็กดูดนิ้ว เป็นระยะเวลายาวสามารถผลักฟันออกจากแนว และอาจส่งผลต่อการเจริญเติบโตและการพัฒนาของกระดูกขากรรไกรของเด็ก เครื่องมือจัดฟันสามารถช่วยดึงฟันกลับเข้าที่ได้นั่นเอง

หากพ่อแม่ผู้ปกครองท่านใด สนใจพาบุตรหลานของท่านเข้ารับการจัดฟันในเด็ก สามารถติดต่อขอรับคำแนะนำได้ที่คลินิกเพราะทางเรามีทีมทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการจัดฟันในเด็ก รวมถึงมีประสบการณ์ทางด้านทันตกรรมในเด็ก และยังสามารถให้คำปรึกษาเกี่ยวกับสุขภาพช่องปากและฟันของเด็กได้อย่างถูกต้อง เพราะเราอยากให้เด็กๆทุกคนมีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดี เพื่อที่จะได้เติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพช่องปากและฟันที่แข็งแรง และมีคุณภาพชีวิตที่ดี

10
รถรับจ้างราคาถูก รถบรรทุกใหญ่ ขนย้ายสะดวก รถรับจ้างอุดรธานี รถ 6 ล้อ 10 ล้อ เทรลเลอร์ เฮี๊ยบ รับจ้างขนของอุดร

เมื่อเราต้องการขนย้ายของขนาดใหญ่ในอุดรธานี เช่น งานที่เกี่ยวข้องกับโครงการก่อสร้าง การย้ายเครื่องจักรในโรงงาน หรือการขนย้ายบ้านทั้งหลัง เป็นงานที่ต้องการความละเอียดรอบคอบและอุปกรณ์ที่เหมาะสมกับภารกิจแต่ละประเภท ความสำคัญของการมีพาหนะที่เหมาะสม ไม่ได้อยู่เพียงแค่การบรรทุกสิ่งของ แต่ยังครอบคลุมถึงความปลอดภัย ความสะดวกสบาย และการจัดการที่มีประสิทธิภาพด้วย

   
รถรับจ้างอุดรธานี

บริการรถรับจ้างอุดรธานี ตอบโจทย์นี้ได้อย่างครบถ้วน โดยมีตัวเลือกที่หลากหลายสำหรับรองรับงานขนาดใหญ่ทุกประเภท

    รถ 6 ล้อรับจ้างอุดร : เหมาะสำหรับการขนย้ายของขนาดกลางถึงใหญ่ เช่น เฟอร์นิเจอร์ เครื่องจักรขนาดเล็ก หรือวัสดุก่อสร้างที่ไม่มากเกินไป
    รถ 10 ล้อรับจ้างอุดร : รองรับน้ำหนักได้มากถึง 15 ตัน เหมาะสำหรับงานที่ต้องการขนย้ายสินค้าหรือวัสดุที่มีน้ำหนักเยอะๆ เครื่องจักรขนาดใหญ่
    รถเทรลเลอร์รับจ้างอุดร : เหมาะสำหรับงานที่ต้องขนย้ายของที่มีขนาดยาวหรือใหญ่พิเศษ เช่น โครงเหล็ก เสาไฟฟ้า หรือสินค้าที่ต้องใช้พื้นที่มาก สามารถขนย้ายของที่มีความยาวถึง 12 เมตร
    รถเฮี๊ยบรับจ้างอุดร : เหมาะสำหรับการขนย้ายของที่ต้องการทั้งการยกและการขนส่งในขั้นตอนเดียว เช่น ตู้คอนเทนเนอร์ หรือเครื่องจักรที่มีน้ำหนักมากและยากต่อการเคลื่อนย้าย


รถรับจ้างทั่วไป ราคาถูก

นอกจากนี้ ความหลากหลายของรถขนของแล้ว บริการรถรับจ้างอุดรธานี ยังมีทีมงานที่มีประสบการณ์และความชำนาญในการขนย้ายสิ่งของประเภทต่าง ๆ ทำให้มั่นใจได้ว่าสิ่งของทุกชิ้นจะได้รับการดูแลอย่างดีและถึงที่หมายอย่างปลอดภัย การเลือกใช้ บริการรถรับจ้าง จึงถือเป็นทางเลือกที่สะดวก รวดเร็ว และช่วยลดภาระให้กับผู้ที่ต้องการขนย้ายของขนาดใหญ่ในพื้นที่อุดรธานีได้ค่ะ

   
รถรับจ้างอุดรธานี

ยิ่งไปกว่านั้นถ้า บริการรถรับจ้างอุดรธานี ยังมาพร้อมกับความยืดหยุ่นในการให้บริการ รถรับจ้าง โดยลูกค้าสามารถเลือกรถและบริการที่เหมาะสมกับความต้องการได้ ไม่ว่าจะเป็นการเช่ารถรายวัน รายชั่วโมง หรือเหมาจ่ายตามระยะทาง นอกจากนี้ บางบริการยังมีตัวเลือกเสริม เช่น ทีมงานช่วยยกของ บริการแพ็คของ หรือแม้กระทั่งการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการจัดการพื้นที่และน้ำหนักของสิ่งของที่จะขนย้าย เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปอย่างราบรื่นที่สุด

   
รถรับจ้างอุดรธานี มาตรฐานความปลอดภัย

จุดเด่นอีกประการหนึ่งของ บริการรถรับจ้างอุดรธานี คือ การให้ความสำคัญกับมาตรฐานความปลอดภัย รถทุกคันได้รับการตรวจสอบสภาพก่อนออกให้บริการ และมีอุปกรณ์ช่วยเสริม เช่น สายรัด แผ่นรอง กันกระแทก และเทคโนโลยี GPS เพื่อติดตามเส้นทางการขนส่ง ทำให้มั่นใจได้ว่าสิ่งของจะถึงปลายทางตรงเวลา ตามที่ลูกค้ากำหนดอย่างปลอดภัย

   
รถรับจ้างอุดรธานี บริการครบวงจร

    งานก่อสร้าง : สำหรับโครงการก่อสร้างในอุดรธานี บริการรถรับจ้าง ช่วยขนย้ายวัสดุ เช่น ปูนซีเมนต์ อิฐ หรือนั่งร้าน ไปยังไซต์งานได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย
    งานโรงงาน : สำหรับโรงงานที่ต้องการย้ายเครื่องจักรขนาดใหญ่ บริการรถเฮี๊ยบ จะช่วยยกและขนย้ายเครื่องจักรได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดความเสี่ยงต่อการเกิดความเสียหาย
    การย้ายบ้านครั้งใหญ่ : หากเป็นการย้ายบ้านทั้งหลัง บริการรถ 6 ล้อหรือ 10 ล้อก็เหมาะสำหรับการบรรทุกเฟอร์นิเจอร์จำนวนมาก รวมถึงอุปกรณ์ขนาดใหญ่ เช่น ตู้เย็นหรือโซฟา

สุดท้ายนี้ บริการรถรับจ้างอุดรธานี ไม่ได้ตอบสนองเพียงแค่ความต้องการในการขนย้ายภายในพื้นที่เท่านั้น แต่ยังรองรับการขนย้ายระหว่างจังหวัดอีกด้วย ทำให้ลูกค้าสามารถใช้บริการได้อย่างครอบคลุม ไม่ว่าปลายทางจะอยู่ใกล้หรือไกลแค่ไหน ด้วยความพร้อมด้านรถขนส่งและทีมงานมืออาชีพ การเลือกใช้บริการนี้จึงเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าและช่วยลดความยุ่งยากในการจัดการขนย้ายของขนาดใหญ่ไค่ะ

   
รถรับจ้างอุดรธานี ราคาถูก

ความคุ้มค่าและการบริการที่ครบวงจร บริการรถรับจ้างอุดรธานี ไม่เพียงแค่ช่วยลดความยุ่งยากในการขนย้ายของขนาดใหญ่ และยังมี ค่าใช้จ่ายที่สมเหตุสมผล โดยจะคำนวณค่าบริการตามระยะทาง น้ำหนักสิ่งของ หรือประเภทของรถที่ใช้ ซึ่งช่วยให้ลูกค้าสามารถควบคุมงบประมาณได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังมีโปรโมชั่นหรือแพ็คเกจพิเศษสำหรับลูกค้าที่ต้องการใช้บริการอย่างต่อเนื่อง ลูกค้าเก่า หรือขนย้ายปริมาณมาก

หากคุณกำลังมองหาบริการขนย้ายที่ สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย เราคือคำตอบ! ไม่ว่าคุณจะย้ายบ้าน ย้ายของ ย้ายเครื่องจักร หรือขนส่งสินค้าในอุดรธานีและพื้นที่ใกล้เคียงขนส่ง พร้อมดูแลคุณด้วยทีมงานมืออาชีพ อย่าปล่อยให้การขนย้ายเป็นเรื่องยุ่งยาก พร้อมให้บริการทุกวัน ด้วยความเป็นมืออาชีพและใส่ใจในทุกงาน โทรหาเราได้

11
ผลข้างเคียงของการรับประทานอาหารเหลวใส อาหารสายยาง

อาหารเหลวใส ประกอบด้วยของเหลวที่ไม่มีชิ้นเนื้อปนอยู่ โดยอาจจะมีสี เช่น น้ำส้มหรืออาจจะมีรสชาติได้เล็กน้อย แต่ไม่ควรมีสิ่งใดลอยหรือตกตะกอนอยู่ภายในของเหลวนั้น อาหารชนิดนี้จะสามารถย่อยได้ง่ายและไม่ทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานหนักจนเกินไป ซึ่งผู้ที่ต้องรับประทานอาหารเหลวใส ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ป่วยที่ไม่สามารถรับประทานอาหารเองได้หรือผู้สูงอายุที่มีปัญหาในเรื่องของการบดเคี้ยวอาหาร ทำให้ต้องรับประทานอาหารเหลวใส โดยทั่วไปแล้วอาหารเหล่านี้ จะสามารถรับประทานได้หากจำเป็นจะต้องได้รับอาหารเหลวใส

แต่ควรตรวจสอบกับแพทย์ทุกครั้งถึงข้อจำกัดต่างๆในการรับประทานอาหารเหลวใส นอกจากนี้หากผู้ที่มีความจำเป็นจะต้องรับประทานอาหารเหลวใส ควรจะต้องหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารประเภท นม ครีม น้ำซุปข้น น้ำผลไม้ที่ผสมเนื้อผลไม้และที่สำคัญที่สุด ควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ซึ่งจะส่งผลเสียต่อร่างกายและอาการป่วยด้วย เพราะอาหารการกินถือเป็นเรื่องที่เราสามารถเลือกรับประทานได้ เพื่อให้เหมาะสมต่อความต้องการของร่างกาย รวมถึงปัญหาสุขภาพต่าง ๆ ยกตัวอย่างเช่น ผู้ป่วยที่ป่วยเป็นโรคเบาหวานหรือผู้ที่มีภาวะน้ำตาลในเลือดสูงก็ควรเลือกรับประทานอาหารให้เหมาะสม ควรงดรับประทานอาหารที่มีรสหวานหรืออาหารที่มีส่วนผสมของน้ำตาลมากเกินไป เพื่อรักษาระดับน้ำตาลในเลือด

หากป่วยเป็นโรคบางชนิดหรือกำลังจะต้องเข้ารับการผ่าตัดแพทย์ผู้ทำการรักษาอาจสั่งให้รับประทานอาหารเหลวใส โดยเป้าหมายของการรับประทานอาหารเหลวใส คือการกำจัดอาหารและของเหลือออกจากระบบทางเดินอาหารซึ่งอาหารเหลวใสมีความต่างกับอาหารธรรมดา เพราะมันสามารถเดินทางผ่านระบบทางเดินอาหารได้อย่างง่ายดาย และไม่ทิ้งสารตกค้างที่ไม่ถึงประสงค์ไว้ในลำไส้ แต่หากจำเป็นจะต้องรับประทานต้องมั่นใจว่าอาหารที่บริโภคเข้าไปนั้นถูกต้องและเหมาะสมกับร่างกายมากที่สุด

โดยปกติแล้วแพทย์ผู้ทำการรักษาจะเป็นคนสั่งให้กินอาหารเหลวใส อย่างไรก็ตามหากเลือกรับประทานอาหารประเภทนี้ จะต้องทำการปรึกษาแพทย์ก่อนว่าเราสามารถรับประทานอาหารเหลวใสได้อย่างปลอดภัยหรือไม่ต้องสอบถามแพทย์ว่าจุดประสงค์ของการรับประทานอาหารเหลวใสคืออะไร ต้องรับประทานนานแค่ไหนและสามารถรับประทานอะไรได้บ้าง และต้องสอบถามเกี่ยวกับกิจกรรมต่าง ๆในชีวิตประจำวันว่าเราสามารถทำกิจกรรมที่ต้องใช้แรงได้หรือไม่

รวมไปถึงต้องสอบถามรายละเอียดถึงผลข้างเคียงต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นระหว่างที่รับประทานอาหารเหลวใส ทั้งนี้อาหารเหลวใสเราสามารถหารับประทานได้ แต่ต้องเลือกรับประทานให้ถูกต้องถูกประเภท และเมื่อรับประทานอาหารเหลวใสแล้วต้องเตรียมรับมือกับคนข้างเคียงที่จะเกิดขึ้นหลังจากรับประทานอาหาร เพราะอาหารเหลวใสบางชนิดอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงแต่ก็ขึ้นอยู่กับว่าเราสามารถรับประทานอะไรได้บ้าง และต้องรับประทานอาหารเหลวใสนานแค่ไหน ซึ่งผลข้างเคียงมักมีอาการที่ไม่รุนแรงมาก เช่น อาจจะมีอาการหิวปวดหัว คลื่นไส้ อ่อนเพลีย และท้องร่วง

อย่างไรก็ตามหากมีอาการที่รุนแรงขึ้น เราต้องติดต่อแพทย์ทันทีว่า มีวิธีรับมืออย่างไรบ้าง โดยต้องแจ้งอาการว่าเริ่มมีอาการเมื่อไหร่และส่งผลกระทบต่อร่างกายอย่างไรบ้าง เพื่อทำการแก้ไขต่อไป เพราะบางครั้งการที่เราเลือกรับประทานอาหารเอง อาจจะเลือกรับประทานอาหารไม่ถูกต้องหรือไม่ถูกประเภทซึ่งอาหารจะส่งผลต่อร่างกายโดยตรง หากรับประทานอาหารที่ไม่เหมาะสมกับร่างกายก็อาจจะทำให้เกิดผลข้างเคียงรุนแรงต่อร่างกายสำหรับผู้ป่วยหากเลือกรับประทานอาหารที่ผิดประเภทหรือไม่เหมาะสมกับโรคที่ป่วยอาจจะทำให้อาการป่วยแย่ลงซึ่งถือว่าเป็นอันตรายมาก

อย่างไรก็ตาม การรับประทานอาหารที่เหมาะสมถึงแม้ว่าจะรับประทานอาหารเหลวใสก็ยังมีอาหารบางชนิดที่เราสามารถรับประทานร่วมได้ การรับประทานอาหารเหล่านี้อาจจะทำให้รู้สึกอิ่มขึ้นในขณะที่รับประทานอาหารเหลวใส สำหรับอาหารที่เราสามารถรับประทานได้ก็คือ เยลลี่หรือไอศกรีมหวานเย็น ที่ไม่มีส่วนผสมจากนมและชิ้นส่วนของผลไม้ช็อกโกแลตถั่ว และอย่าลืมรับประทานของเหลวที่เป็นของคาว เช่น ซุปต่าง ๆ สำหรับการกระจายของเหลวที่มีแคลอรีสูงในระหว่างวัน

หากเราสามารถรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีแคลอรีสูงได้ ก็จะช่วยกระจายของเหลวไปในระหว่างวัน เพราะเมื่อเรารับประทานอาหารเหลวใสปริมาณแคลอรี่ที่ได้รับโดยรวมจะต่ำ ซึ่งอาจส่งผลให้น้ำตาลในเลือดต่ำไปด้วย ทำให้รู้สึกวิงเวียนศีรษะ มึนหัวหรืออาการครึ่งไส้ได้ สำหรับคนที่ป่วยเป็นโรคเบาหวานการรับประทานอาหารเหลวใส จะต้องปรึกษาแพทย์ผู้ทำการรักษาว่าควรดื่มเครื่องดื่มที่เพิ่มความหวานให้เพียงพอ เพื่อให้ได้รับพลังงานระหว่างวันหรือสอบถามว่าเราเหมาะสมที่จะรับประทานอาหารประเภทใด เพื่อให้เหมาะสมต่อความต้องการของร่างกาย เพราะถ้าหากรับประทานในปริมาณที่มากเกินไป อาจส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นหรือมีน้ำหนักเกินได้

อย่างไรก็ตามเราขอสนับสนุนให้ทุกท่านรับประทานอาหารที่เหมาะสมและเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เพื่อที่จะได้ปราศจากจากโรคภัยไข้เจ็บและยังทำให้มีสุขภาพจิต สุขภาพกายที่แข็งแรง สามารถรับมือกับปัญหาต่าง ๆในชีวิตประจำวันได้ ทั้งยังช่วยให้สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างมีความสุขและมีประสิทธิภาพ

12
“สร้างเงินแสนจากครัวที่บ้าน” สไตล์ครูแมกซ์

จุดเริ่มต้นเพียงแค่ไม่มีใจรักการเป็นลูกน้อง และไม่ชอบการทำงานในองค์กร บวกกับมีความตั้งใจที่ว่า อยากฝึกทักษะการทำอาหารไว้ทำให้คุณพ่อคุณแม่ทานตอนท่านแก่
พร้อมกับคำพูดของคุณแม่ที่ชอบบอกว่า “การขายของมันได้จับเงินทุกวัน” นั่นคือจุดตัดสินใจ

ครูแมกซ์
จุดเริ่มต้นง่ายๆก็เริ่มจากการเรียนรู้จากคุณแม่ของครูแมกซ์เอง ท่านเป็นคนทำอาหารไทยอร่อย และเคยเปิดร้านอาหารมาก่อนตอนครูแมกซ์เด็กๆ
โดยใช้การถาม สังเกตอย่างละเอียด และฝึกชิมรสชาติของอาหารที่แท้จริง (เพราะคุณแม่ไม่เคยชั่งตวงวัดแม่บอกชิมให้เป็นไม่ต้องมาถามสูตร555)
ร่วมกับการเรียนรู้ผ่านสื่อออนไลน์ เช่น ยูทูป ดูทุกวันตลอดระยะเวลา 8-10ปี พร้อมกับการซื้อวัตถุดิบมาลงมือทำจริง ชิมจริง ทำให้คคุณแม่ทานจริง

ครูแมกซ์
จนถึงจุดที่มั่นใจแล้วว่า…จะทำอาหารเพื่อสร้างรายได้เริ่มง่ายๆจากครัวที่บ้าน
จากประสบการณ์ตลอดระยะเวลา15ปี ที่ครูแมกซ์มีรายได้จากอาหาร ไม่ว่าจะเป็นการยืนขายสลัดริมถนนหน้าตึกชาญอิสะ2 เปิดรับออเดอร์ลุกค้าในหมู่บ้าน การพรีออเดอร์ผ่านทางโซเชียลมีเดีย หรือแม้กระทั่งการออกบูทตามห้างดังต่างๆ

ทั้งหมดนี้ผ่านการทำจริง ได้ผลลัพธ์จริงมาทั้งหมดแล้วด้วยตัวครูแมกซ์เองคนเดียว (แบบไม่เลือกการมีลูกน้อง)

จึงมั่นใจมากว่าจากประสบการณ์ทั้งหมดที่ครูแมกซ์สั่งสมมาตลอดจนถึงวันนี้

ไข่เจียว
ครูแมกซ์ได้พิสูจน์แล้วว่า…การสร้างเงินแสนจากครัวที่บ้าน “มันทำได้จริง”
ครูแมกซ์ก็พร้อมที่จะถ่ายทอดทุกสูตรลัด แบไต๋ทุกเคล็ดลับให้คุณแบบหมดเปลือก!!  !!ความตั้งใจนั้นมันก็ได้เกิด”ผลลัพธ์”กับลูกศิษย์ครูแมกซ์เรียบร้อยแล้ว

📌น้องมิ้นท์ นักเรียนคอร์สไพรเวทจับมือทำรอบสด
ลาออกจากงานประจำเพื่อมาเปิดร้านขายอาหาร หลังจากเรียนกับครูแมกซ์ไปเพียงแค่3วัน น้องได้จับเงินบาทแรกจากอาหารทันที!!
โดยเปิดรับพรีออเดอร์จากอาพาร์ทเมนต์ (โดยมีครูแมกซ์เป็นที่ปรึกษาตลอด1เดือนเต็ม) เริ่มจากเมนูง่ายๆที่ครูแมกซ์เลือกให้เป็นเมนูประจำร้าน คือ “เมนูไข่ฟูหมูฉ่ำนัว”

‼️ล่าสุดเพียงแค่ 2เดือน ยอดขายเดือนกุมภาพันธ์ 68
สรุปได้ยอดขาย 60,000 บาท (ทำด้วยตัวคนเดียว)

📌น้องเติ๊ด นักเรียนคอร์สออนไลน์
เป็นพนักงานประจำหัวหน้าแผนกHR อยากหาอาชีพเสริมเพื่อวางแผนลาออกจากงานประจำ หลังจากเรียนคอร์สครูแมกซ์ภายใน 7 วัน น้องได้จับเงินบาทแรกจากอาหารทันที!!
โดยเปิดรับออเดอร์ที่คอนโด เริ่มจากเมนูง่ายๆที่เรียนจากคอร์สสูตรกะเพรา กับ คอร์ส10เมนูไข่ทำง่ายรายได้ปัง เมนูประจำร้าน คือ “เมนูข้าวไข่เจียว ไข่ข้น”
‼️ล่าสุดเพียงแค่ 2เดือน ยอดขายได้มากกว่าเงินเดือนประจำเป็นที่เรียนร้อยแล้ว พร้อมกับยื่นใบลาออก (แต่นายยังไม่อนุมัติ)


สนใจติดต่อสอบถามข้อมูล
ไลน์ ID  :  @krumax
Page FB : https://web.facebook.com/profile.php?id=61569480015186
เว็บไซด์ : https://krumax.net/krumaxcourse/
เบอร์โทร : 081-413-4479


13
หมอออนไลน์: บิดชิเกลลา (Shigellosis/Bacillary dysentery)

บิดชิเกลลา (บิดไม่มีตัว) พบในคนทุกวัย ส่วนใหญ่พบในเด็กอายุ 1-5 ปี มักพบในถิ่นที่การสุขาภิบาลยังไม่ดี หรืออยู่กันอย่างแออัด

การติดเชื้อพบได้บ่อยในสถานรับเลี้ยงเด็ก สถานพักฟื้นของผู้สูงอายุ หรือผู้ป่วยทางจิตเวช

บางครั้งอาจเกิดการระบาดตามหมู่บ้าน โรงเรียน โรงงาน ค่ายทหาร และมักพบมากในช่วงฤดูร้อนต่อฤดูฝน

ผู้ติดเชื้อบางรายอาจไม่มีอาการแสดง แต่เป็นพาหะแพร่เชื้อให้ผู้อื่น ส่วนใหญ่เชื้อจะอยู่ในพาหะเพียงช่วงสั้น ๆ มักถูกขับออกหมดภายใน 4 เดือน (แต่บางราย เชื้ออาจอยู่นานถึงหลายปีก็ได้)

ส่วนผู้ป่วยที่แสดงอาการ ส่วนใหญ่อาการมักไม่รุนแรงและหายได้เองโดยไม่มีภาวะแทรกซ้อนใด ๆ ส่วนน้อยอาจเป็นรุนแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็กเล็กและผู้สูงอายุ อาจทำให้เกิดภาวะขาดน้ำรุนแรงถึงเสียชีวิตได้


สาเหตุ

เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียที่มีชื่อว่า ชิเกลลา (Shigella) ซึ่งมีอยู่หลายสายพันธุ์ ส่วนใหญ่ติดต่อโดยการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ โดยผ่านทางการสัมผัสมือหรือสิ่งของที่เปื้อนเชื้อ หรือจากการกินอาหาร หรือดื่มน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อ (จากมือผู้ป่วยที่ไม่ได้ล้างให้สะอาดหรือแมลงวันตอม)

นอกจากนี้ ยังสามารถติดต่อโดยทางเพศสัมพันธ์ที่มีการใช้ปากสัมผัสกับทวารหนักหรือองคชาตที่ปนเปื้อนเชื้อจากอุจจาระในบริเวณทวารหนัก (ซึ่งพบในหมู่ชายรักร่วมเพศ)

เชื้อชิเกลลาจะเข้าไปในเยื่อบุลำไส้ใหญ่ ทำให้ลำไส้ใหญ่อักเสบ เกิดอาการท้องเดิน ถ่ายเป็นมูกเลือด

ระยะฟักตัว 1-7 วัน (ส่วนใหญ่ 24-48 ชั่วโมง)


อาการ

ผู้ป่วยมักมีไข้สูง ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัวซึ่งเกิดขึ้นฉับพลัน ร่วมกับอาการปวดบิดในท้อง คลื่นไส้ อาเจียน และถ่ายเป็นน้ำบ่อยครั้ง ถ้าถ่ายรุนแรงอาจทำให้อ่อนเพลียเพราะสูญเสียน้ำกับเกลือแร่ ต่อมาอาการถ่ายเป็นน้ำทุเลาลง แต่จะปวดเบ่งที่ก้น และถ่ายเป็นมูก (หนองสีขาว) หรือมีมูกปนเลือดแบบกะปริดกะปรอย วันละ 10-30 ครั้ง ไม่มีกลิ่นเหม็น

ในเด็กเล็ก อาจมีไข้สูง ซึม และชักได้ อาการชักจะเป็นอยู่ไม่นาน และไม่มีอันตราย

อาการไข้จะเป็นอยู่ 1-2 วันก็ทุเลาไปเอง ส่วนอาการถ่ายท้องจะค่อย ๆ ห่างขึ้นภายใน 2-3 วัน และจะหายได้เองภายใน 5-7 วัน แต่บางรายอาจกลับเป็นซ้ำได้อีก

ในรายที่เป็นเพียงเล็กน้อย จะมีอาการปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียนเล็กน้อย ถ่ายเป็นน้ำหรือถ่ายเหลววันละ 3-5 ครั้ง อาจมีมูกปน แล้วทุเลาไปได้เองภายใน 3-5 วัน ส่วนใหญ่จะไม่มีไข้หรือมีไข้ต่ำ


ภาวะแทรกซ้อน

ที่พบได้บ่อย คือภาวะขาดน้ำ ซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงตายได้

ในรายที่เบ่งถ่ายบ่อยอาจทำให้ทวารหนักโผล่ออกมาข้างนอก

ในทารกแรกเกิดถ้าติดเชื้อจากมารดาขณะคลอด อาจเกิดภาวะโลหิตเป็นพิษ หรือลำไส้ทะลุได้

ผู้ป่วยเอดส์ และเด็กขาดอาหาร อาจมีอาการรุนแรงขั้นโลหิตเป็นพิษ เป็นเรื้อรังหรือกำเริบได้บ่อย

ที่พบได้น้อย เช่น ข้ออักเสบจากปฏิกิริยาของร่ายกาย (reactive arthritis) ภาวะเม็ดเลือดแดงแตกร่วมกับไตวาย (hemolytic-uremic syndrome) ซึ่งเกิดจากพิษ (shigatoxin) ที่เชื้อปล่อยออกมา นอกจากนี้เชื้ออาจแพร่กระจายทำให้ตับอักเสบ กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ ปอดอักเสบ เยื่อหุ้มสมองอักเสบ เป็นต้น

ที่อันตรายแต่พบได้น้อยมาก เช่น ภาวะลำไส้ใหญ่พอง (toxic megacolon) ลำไส้ทะลุ และเยื่อบุช่องท้องอักเสบ


การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยจากอาการ ประวัติการเจ็บป่วย และการตรวจร่างกายเป็นหลัก มักตรวจพบไข้ 38.5-40 องศาเซลเซียส อาจพบอาการขาดน้ำ หรือช็อก (เหงื่อออก ตัวเย็น ชีพจรเบาเร็ว ความดันต่ำ) ท้องอาจกดเจ็บเล็กน้อยตรงบริเวณกลางท้อง ท้องน้อยข้างซ้าย หรือทั่วท้อง บางรายอาจตรวจไม่พบสิ่งผิดปกติชัดเจน

ในรายที่ยังวินิจฉัยไม่ได้ชัดเจน แพทย์จะทำการตรวจพิเศษเพิ่มเติม เช่น นำอุจจาระไปเพาะเชื้อ ใช้กล้องส่องตรวจลำไส้ใหญ่ส่วนคด (sigmoidoscopy)


การรักษาโดยแพทย์

1. ที่สำคัญคือ ให้ยาปฏิชีวนะ ซึ่งแพทย์จะเลือกใช้ยาชนิดใดชนิดหนึ่ง เช่น ไตรม็อกซาโซล, นอร์ฟล็อกซาซิน, โอฟล็อกซาซิน, ไซโพรฟล็อกซาซิน, อะซิโทรไมซิน (azithromycin) หรือเซฟทริอะโซน (ceftriaxone) เป็นต้น

2. ให้การรักษาตามอาการ เช่น ถ้ามีไข้ให้ยาลดไข้ ถ้าอ่อนเพลียหรือมีภาวะขาดน้ำเล็กน้อยให้ดื่มน้ำเกลือผสมเอง หรือเตรียมจากผงน้ำตาลเกลือแร่ขององค์การเภสัชกรรม

ส่วนยาแก้ท้องเดินไม่จำเป็นต้องให้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มยาลดการเคลื่อนไหวของลำไส้ เพราะอาจทำให้เชื้ออยู่ในลำไส้นานขึ้น ทำให้โรคหายช้าหรือลุกลามได้

3. ถ้ามีภาวะขาดน้ำรุนแรงหรือช็อก มีอาการปวดท้องรุนแรง กดเจ็บรุนแรง หรือสงสัยมีภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง (เช่น โลหิตเป็นพิษ ปอดอักเสบ เยื่อหุ้มสมองอักเสบ เป็นต้น) จะรับตัวไว้รักษาในโรงพยาบาล นอกจากให้การรักษาตามอาการ (เช่น ยาลดไข้ ให้น้ำเกลือ) แพทย์อาจจำเป็นต้องให้ยาปฏิชีวนะทางหลอดเลือดดำ และแก้ไขภาวะแทรกซ้อนที่พบ

ผลการรักษา ส่วนใหญ่หายเป็นปกติได้ใน 5-7 วัน ส่วนน้อยที่เกิดภาวะแทรกซ้อน ซึ่งหากรักษาได้ทันการณ์ก็จะหายเป็นปกติได้ แต่ถ้าได้รับการรักษาล่าช้าไป ก็อาจได้รับอันตรายถึงเสียชีวิตได้


การดูแลตนเอง

หากสงสัย เช่น มีอาการถ่ายเป็นมูกหรือมูกปนเลือดกะปริดกะปรอย ภายหลังจากมีอาการไข้ร่วมกับถ่ายเป็นน้ำนำมาก่อน หรือมีอาการท้องเดินในผู้ที่สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ที่เป็นบิดชิเกลลา ควรปรึกษาแพทย์

เมื่อตรวจพบว่าเป็นบิดชิเกลลา ควรดูแลรักษา ดังนี้

1. ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์

2. กินยาปฏิชีวนะตามขนาดและครบระยะเวลาตามที่แพทย์แนะนำอย่างเคร่งครัด

3. ติดตามการรักษากับแพทย์ตามนัด

4. ควรกลับไปพบแพทย์ ถ้ามีลักษณะข้อใดข้อหนึ่งดังต่อไปนี้

    มีไข้สูง หรือมีอาการหนาวสั่นร่วมด้วย
    เบื่ออาหาร ดื่มน้ำได้น้อย อาเจียน หรือปวดท้องรุนแรง
    ซึม ปวดศีรษะรุนแรง เจ็บหน้าอกมาก หรือหายใจหอบ
    ตาเหลืองตัวเหลือง
    กินยาที่แพทย์แนะนำ 2-3 วันแล้วไม่ดีขึ้น
    หลังกินยา มีผื่นคัน ตุ่มพุพอง ปากบวม ตาบวม คลื่นไส้ อาเจียน หรือมีความผิดปกติอื่น ๆ
    มีความวิตกกังวล


การป้องกัน

1. ดื่มน้ำต้มสุกหรือน้ำสะอาด ไม่ดื่มน้ำคลองหรือน้ำบ่อแบบดิบ ๆ ไม่กินน้ำแข็งที่เตรียมไม่สะอาด

2. กินอาหารสุกและไม่มีแมลงวันตอม

3. ล้างมือด้วยน้ำกับสบู่ก่อนเตรียมอาหาร ก่อนเปิบข้าว และหลังถ่ายอุจจาระหรือเปลี่ยนผ้าอ้อมเด็ก

4. ถ่ายอุจจาระลงในส้วมที่ถูกสุขลักษณะ อย่าถ่ายลงคลอง หรือตามพื้นดิน

5. สำหรับชายรักร่วมเพศ ควรหลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ เช่น การใช้ปากสัมผัสกับทวารหนักหรือองคชาต

ข้อแนะนำ

1. ผู้ป่วยควรหยุดเรียนหรือหยุดงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ประกอบการเกี่ยวกับอาหาร (เช่น คนครัว บริกร เป็นต้น) ในร้านอาหาร ภัตตาคาร โรงพยาบาล สถานพักฟื้น โรงเรียน หรือสถานรับเลี้ยงเด็ก จำเป็นต้องหยุดงานจนกว่าจะตรวจไม่พบเชื้อในอุจจาระ ทั้งนี้เพื่อป้องกันมิให้แพร่กระจายเชื้อให้ผู้อื่น

2. อาการไข้ ปวดท้อง ถ่ายเป็นน้ำ แล้วต่อมาถ่ายเป็นมูกเลือด อาจเกิดจากเชื้อวิบริโอพาราฮีโมไลติคัส ซึ่งพบในผู้ที่กินอาหารทะเล (เช่น หอยนางรม) แบบดิบ ๆ

14
“สร้างเงินแสนจากครัวที่บ้าน” สไตล์ครูแมกซ์

จุดเริ่มต้นเพียงแค่ไม่มีใจรักการเป็นลูกน้อง และไม่ชอบการทำงานในองค์กร บวกกับมีความตั้งใจที่ว่า อยากฝึกทักษะการทำอาหารไว้ทำให้คุณพ่อคุณแม่ทานตอนท่านแก่
พร้อมกับคำพูดของคุณแม่ที่ชอบบอกว่า “การขายของมันได้จับเงินทุกวัน” นั่นคือจุดตัดสินใจ

ครูแมกซ์
จุดเริ่มต้นง่ายๆก็เริ่มจากการเรียนรู้จากคุณแม่ของครูแมกซ์เอง ท่านเป็นคนทำอาหารไทยอร่อย และเคยเปิดร้านอาหารมาก่อนตอนครูแมกซ์เด็กๆ
โดยใช้การถาม สังเกตอย่างละเอียด และฝึกชิมรสชาติของอาหารที่แท้จริง (เพราะคุณแม่ไม่เคยชั่งตวงวัดแม่บอกชิมให้เป็นไม่ต้องมาถามสูตร555)
ร่วมกับการเรียนรู้ผ่านสื่อออนไลน์ เช่น ยูทูป ดูทุกวันตลอดระยะเวลา 8-10ปี พร้อมกับการซื้อวัตถุดิบมาลงมือทำจริง ชิมจริง ทำให้คคุณแม่ทานจริง

ครูแมกซ์
จนถึงจุดที่มั่นใจแล้วว่า…จะทำอาหารเพื่อสร้างรายได้เริ่มง่ายๆจากครัวที่บ้าน
จากประสบการณ์ตลอดระยะเวลา15ปี ที่ครูแมกซ์มีรายได้จากอาหาร ไม่ว่าจะเป็นการยืนขายสลัดริมถนนหน้าตึกชาญอิสะ2 เปิดรับออเดอร์ลุกค้าในหมู่บ้าน การพรีออเดอร์ผ่านทางโซเชียลมีเดีย หรือแม้กระทั่งการออกบูทตามห้างดังต่างๆ

ทั้งหมดนี้ผ่านการทำจริง ได้ผลลัพธ์จริงมาทั้งหมดแล้วด้วยตัวครูแมกซ์เองคนเดียว (แบบไม่เลือกการมีลูกน้อง)

จึงมั่นใจมากว่าจากประสบการณ์ทั้งหมดที่ครูแมกซ์สั่งสมมาตลอดจนถึงวันนี้

ไข่เจียว
ครูแมกซ์ได้พิสูจน์แล้วว่า…การสร้างเงินแสนจากครัวที่บ้าน “มันทำได้จริง”
ครูแมกซ์ก็พร้อมที่จะถ่ายทอดทุกสูตรลัด แบไต๋ทุกเคล็ดลับให้คุณแบบหมดเปลือก!!  !!ความตั้งใจนั้นมันก็ได้เกิด”ผลลัพธ์”กับลูกศิษย์ครูแมกซ์เรียบร้อยแล้ว

📌น้องมิ้นท์ นักเรียนคอร์สไพรเวทจับมือทำรอบสด
ลาออกจากงานประจำเพื่อมาเปิดร้านขายอาหาร หลังจากเรียนกับครูแมกซ์ไปเพียงแค่3วัน น้องได้จับเงินบาทแรกจากอาหารทันที!!
โดยเปิดรับพรีออเดอร์จากอาพาร์ทเมนต์ (โดยมีครูแมกซ์เป็นที่ปรึกษาตลอด1เดือนเต็ม) เริ่มจากเมนูง่ายๆที่ครูแมกซ์เลือกให้เป็นเมนูประจำร้าน คือ “เมนูไข่ฟูหมูฉ่ำนัว”

‼️ล่าสุดเพียงแค่ 2เดือน ยอดขายเดือนกุมภาพันธ์ 68
สรุปได้ยอดขาย 60,000 บาท (ทำด้วยตัวคนเดียว)

📌น้องเติ๊ด นักเรียนคอร์สออนไลน์
เป็นพนักงานประจำหัวหน้าแผนกHR อยากหาอาชีพเสริมเพื่อวางแผนลาออกจากงานประจำ หลังจากเรียนคอร์สครูแมกซ์ภายใน 7 วัน น้องได้จับเงินบาทแรกจากอาหารทันที!!
โดยเปิดรับออเดอร์ที่คอนโด เริ่มจากเมนูง่ายๆที่เรียนจากคอร์สสูตรกะเพรา กับ คอร์ส10เมนูไข่ทำง่ายรายได้ปัง เมนูประจำร้าน คือ “เมนูข้าวไข่เจียว ไข่ข้น”
‼️ล่าสุดเพียงแค่ 2เดือน ยอดขายได้มากกว่าเงินเดือนประจำเป็นที่เรียนร้อยแล้ว พร้อมกับยื่นใบลาออก (แต่นายยังไม่อนุมัติ)

สนใจติดต่อสอบถามข้อมูล
ไลน์ ID  :  @krumax
Page FB : https://web.facebook.com/profile.php?id=61569480015186
เว็บไซด์ : https://krumax.net/krumaxcourse/
เบอร์โทร : 081-413-4479


15
ไหว้พระ ทำบุญ 9 วัด อำนาจเจริญ วัดดัง วัดสวย เสริมอำนาจ เสริมบารมี

ภาคอีสาน จะเรียกได้ว่าเป็นแหล่งรวมวัดวาอารามสวยๆ ก็ได้เลยค่ะ เพราะนอกจากความสวยงามที่เราจะได้ชมแล้ว ความเก่าแก่และความศักดิ์สิทธิ์ก็ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว อย่างวันนี้เราจะพาทุกคนไป อำนาจเจริญ และไป ไหว้พระ 9 วัด กัน อย่ารอช้าดีกว่า ไปไหว้พระเสริมดวงกันเลย!

ไหว้พระ 9 วัด อำนาจเจริญ

1. พุทธอุทยานพระมงคลมิ่งเมือง

     พุทธอุทยานพระมงคลมิ่งเมือง เป็น ที่เที่ยวอำนาจเจริญ ประกอบไปด้วย ธรรมชาติอันร่มรื่น พันธุ์ไม้นานาชนิด และ พระมงคลมิ่งเมือง พระพุทธรูปปางมารวิชัย หน้าตักกว้าง 11 เมตร ส่วนความสูงจากระดับพื้นดินถึงยอดเปลวรัศมีนั้นจะมากถึง 20 เมตรเลยทีเดียวค่ะ อีกทั้งยังเป็นพระพุทธรูปที่ได้รับอิทธิพลจากศิลปะป่าละแบบอินเดียอีกด้วยค่ะ

    ที่อยู่ : 126 ถนนชยางกูร ตำบลบุ่ง อำเภอเมืองอำนาจเจริญ จังหวัดอำนาจเจริญ
    เปิดให้เข้าชม : 08.00-17.00 น.

2. เจดีย์หินพันล้านก้อน วัดภูพนมดี

     วัดภูพนมดี เป็นวัดที่ตั้งอยู่บนภูเขาดินขนาดเล็กๆ ภายในจะมีเจดีย์สวยงดงามก่อด้วยหินศาลาแลงสูงกว่า 39 เมตร รวมถึงยังมีพระพุทธรูปที่ก่อด้วยปูนอีกด้วย แต่ที่โดดเด่นสุดๆ ก็คือ เจดีย์หินพันล้านก้อน ที่สร้างมาจากปูนคอนกรีต แล้วนำเอาหินสีเทาสีขาวก้อนเล็กๆ จำนวนมากมาตกแต่งอีกที โดยติดตามผนัง เพดาน รูปปั้นต่างๆ ให้เป็นลวดลายอย่างสวยงาม รวมถึงยังประดิษฐาน พระศรีรัตนตรัยรัตน์ พระพุทธรูปสีขาวริมหน้าผา และสิ่งศักดิ์สิทธิ์อื่นๆ ให้ได้กราบไหว้และเคารพกันมากมายด้วยค่ะ

    ที่อยู่ : ตำบลหนองไฮ อำเภอเสนางคนิคม จังหวัดอำนาจเจริญ
    เปิดให้เข้าชม : สามารถเข้าชมได้ตามเวลาเปิดปิดของสถานที่

3. วัดถ้ำแสงเพชร

     วัดถ้ำแสงเพชร หรือ วัดศาลาพันห้อง เป็นสำนักสงฆ์สาขาหนึ่งของ วัดหนองป่าพง ตั้งอยู่ใน จังหวัดอำนาจเจริญ ค่ะ ภายในจะมีเจดีย์ขนาดใหญ่ ประดิษฐานรูปเหมือนของ หลวงปู่ชา สุภัทโท ส่วนผนังภายในก็จะมีภาพเขียนสีที่สวยงดงามมากๆ โดยด้านบนจะเล่าเรื่องเกี่ยวกับพุทธประวัติ ส่วนด้านล่างจะเป็นภาพเขียนเกี่ยวกับวัตรปฏิบัติของหลวงปู่ชา สุภัทโทค่ะ อีก วัดดัง ของ อำนาจเจริญ ต้องไปสักการะกันเลยค่ะ

    ที่อยู่ : หมู่ 10 ตำบลหนองมะแซว อำเภอเมืองอำนาจเจริญ จังหวัดอำนาจเจริญ
    เปิดให้เข้าชม : 07.30-17.00 น.

4. วัดพระเจ้าใหญ่ลือชัย วัดอำนาจ

     วัดพระเจ้าใหญ่ลือชัย หรือ วัดอำนาจ วัดสวย ที่ตั้งอยู่ใน อำเภอลืออำนาจ จังหวัดอำนาจเจริญ เป็นวัดที่ประดิษฐาน พระเจ้าใหญ่ลือชัย หรือ พระฤทธิลือชัย ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ก่ออิฐถือปูนและลงรักปิดทอง โดยมีพุทธลักษณะเป็นแบบศิลปะล้านช้าง สร้างเมื่อประมาณปี พ.ศ.2398-2404 นอกจากนี้ยังมีเรื่องเล่าเก่าแก่เกี่ยวกับความศักดิ์สิทธิ์และปาฏิหาริย์ของพระพุทธรูปอีกด้วย ว่ากันว่าใครที่ได้มากราบไหว้ขอพรจะได้รับความสำเร็จ ได้รับชัยชนะจากศัตรูต่างๆ มีอำนาจบารมี ชีวิตผ่านพ้นปัญหาอุปสรรคได้นั่นเองค่ะ

    ที่อยู่ : ตำบลอำนาจ อำเภอลืออำนาจ จังหวัดอำนาจเจริญ
    เปิดให้เข้าชม : 08.30-16.30 น.

5. วัดศรีโพธิ์ชัย

     วัดศรีโพธิ์ชัย เป็นวัดที่มี พระเจ้าใหญ่ศรีโพธิ์ชัย ซึ่งเป็นพระพุทธรูปแบบปูนปั้นฉาบสีทอง ปางมารวิชัย สูง 1.50 เมตร หน้าตักกว้าง 1.20 เมตร ประดิษฐานอยู่นั่นเองค่ะ โดยได้ช่างญวนสร้างขึ้นมา ทั้งตัวของพระพุทธรูปและวิหารที่ตั้ง เมื่อประมาณปี พ.ศ.2490 นับได้ว่าเป็นพระพุทธรูปเก่าแก่อย่างมาก เพราะมีอายุมากถึง 129 ปีนั่นเองค่ะ รวมถึงยังมีโบราณวัตถุอีกเป็นจำนวนมากอยู่ภายในวัดด้วยค่ะ

    ที่อยู่ : ตำบลปลาค้าว อำเภอเมืองอำนาจเจริญ จังหวัดอำนาจเจริญ
    เปิดให้เข้าชม : 08.00-17.00 น.

6. วัดพระศรีเจริญ

      วัดพระศรีเจริญ เป็นวัดที่มี พระเจ้าใหญ่พระศรีเจริญ ประดิษฐานอยู่ ซึ่งนับได้ว่ามีศิลปะล้านช้าง ปางมารวิชัย หล่อด้วยปูนลงรักปิดทองสวยงาม มีอายุมากกว่า 750 ปีมาแล้วค่ะ  ซึ่งในอดีตนั้นเคยมีอภินิหารเกิดขึ้น คือ มีประกายรัศมีออกจากองค์พระ เป็นแสงสุกใสล่องลอยไปที่โคนต้นโพธิ์ด้านหน้าอุโบสถนั่นเองค่ะ โดยชาวบ้าน ก็เชื่อกันว่าความศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้าใหญ่พระศรีเจริญนั้น จะแคล้วคลาดและปลอดภัยนั่นเองค่ะ

    ที่อยู่ : ตำบลหัวตะพาน อำเภอหัวตะพาน จังหวัดอำนาจเจริญ
    เปิดให้เข้าชม : 08.00-18.00 น.

7. วัดสุทธิกาวาส วัดนาป่าแซง

     วัดสุทธิกาวาส หรือ วัดนาป่าแซง เป็นวัดที่ประดิษฐาน พระธาตุนาป่าแซง พระธาตุอันศักดิ์สิทธิ์นั่นเองค่ะ โดยมีพระบรมสารีริกธาตุ 113 องค์ บรรจุไว้ 2 แห่ง คือ ที่ยอดพระธาตุ และกลางพระธาตุ ซึ่งพระธาตนี้สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2520 มีความเชื่อกันว่าใครที่ได้มากราบไหว้พระธาตุนาป่าแซง ก็เท่ากับได้กราบไหว้บูชาพระธาตุพนมเลยค่ะ  รวมถึงมีโลงแก้ว ที่บรรจุสังขาร พระครูสิทธิ พัฒนาภรณ์ หรือ หลวงพ่อสีทา ที่ร่างกายไม่เน่าไม่เปื่อยเอาไว้ด้วย แม้จะมรณภาพไปเกือบ 20 ปีแล้วค่ะ

    ที่อยู่ : ตำบลนาป่าแซง อำเภอปทุมราชวงศา จังหวัดอำนาจเจริญ
    เปิดให้เข้าชม : สามารถเข้าชมได้ตามเวลาเปิดปิดของสถานที่

8. วัดพระเหลาเทพนิมิต

     พระเหลาเทพนิมิต เป็นพระประธานที่ประดิษฐานอยู่ในอุโบสถ ของ วัดพระเหลาเทพนิมิต ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย  ที่มีลักษณะสวยงดงามอย่างมากค่ะ และแน่นอนว่าก็เป็นที่นับถือของชาวพุทธทั่วไปเช่นกัน ว่ากันว่า ไม่ว่าจะเป็นตัวโบสถ์ หรือองค์พระประธานองค์นี้ ที่เป็นสถาปัตยกรรมศิลปะลาว อายุราวๆ ในปีพ.ศ. 2263 นี้ ถือได้ว่าเป็นโบราณวัตถุที่เก่าแก่แน่นอน อย่างต่ำไม่น้อยกว่า 246 ปี เลยทีเดียวค่ะ

    ที่อยู่ : ตำบลพนา อำเภอพนา จังหวัดอำนาจเจริญ
    เปิดให้เข้าชม : 08.30-16.30 น.

9. ศาลหลักเมืองอำเภอพนา

     ศาลหลักเมืองอำเภอพนา เป็นสถานที่ตั้งของ เสาหลักบ้านเมืองพนา ซึ่งเป็นสัญลักษณ์บ่งบอกเรื่องราวของการตั้งบ้านเมืองในอำเภอพนานี้ โดยเป็นศาลรูปร่างสไตล์ไทย สีแดงสด และมีกำแพงล้อมรอบเหมือนเมืองในสมัยก่อน ที่เอาไว้กั้นข้าศึกไม่ให้รุกรานอีกด้วยค่ะ อีกทั้งที่นี่ยังมีการจัดประเพณีตักบาตรบนถนนสายวัฒนธรรมของเมืองพนา ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกๆ ปี บริเวณหน้าศาลหลักเมืองนี้ด้วยค่ะ

    ที่อยู่ : หมู่ 7 บ้านพนา ตำบลพนา อำเภอพนา จังหวัดอำนาจเจริญ
    เปิดให้เข้าชม : สามารถเข้าชมได้ตามเวลาเปิดปิดของสถานที่

หน้า: [1] 2 3 ... 53