โรคตับอักเสบเกิดจากอะไรและรับมืออย่างไร“ตับ” เป็นอวัยวะที่มีหน้าที่เก็บสะสมพลังงาน และมีส่วนสำคัญในการกรองของเสีย ขจัดสารพิษตกค้างที่ได้รับจากการรับประทานอาหารให้ออกไปจากร่างกาย ดังนั้น เมื่อเกิดโรคตับอักเสบขึ้น ร่างกายก็จะไม่สามารถกรองของเสียหรือสารพิษออกจากร่างกายได้ และทำให้ระบบต่าง ๆ ในร่างกายเกิดความผิดปกติตามมา ซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้เลยทีเดียว ดังนั้นจึงจะมาให้ความรู้เกี่ยวกับโรคตับอักเสบว่า โรคตับอักเสบเกิดจากอะไร ลักษณะอาการเป็นอย่างไร มีแนวทางในการรักษาอย่างไรบ้าง
โรคตับอักเสบคืออะไร
โรคตับอักเสบ คือ ภาวะที่ตับเกิดการอักเสบและหากไม่ได้รับการรักษาให้หายจนกลายเป็นโรคตับอักเสบแบบเรื้อรัง และเกิดพังผืดหรือแผลเป็นในเนื้อตับขึ้นจนกระจายทั่วทั้งตับ ก็จะถูกเรียกว่า ภาวะตับแข็ง ซึ่งมีโอกาสสูงที่จะมีโรคมะเร็งตับแทรกซ้อนขึ้นได้ โดยโรคตับอักเสบสามารถแบ่งได้เป็น 2 ประเภทได้แก่
ตับอักเสบแบบเฉียบพลัน คือ ตับอักเสบที่เกิดจากสาเหตุต่าง ๆ และการอักเสบสามารถหายได้เองภายในระยะ 6 เดือน
ตับอักเสบแบบเรื้อรัง คือ ตับอักเสบจากสาเหตุต่าง ๆ ที่ไม่สามารถหายได้เองในระยะ 6 เดือน และมักจะไม่มีอาการบ่งบอกจนกว่าจะถึงระยะสุดท้ายของโรคหรือตับวาย
โรคตับอักเสบเกิดจากอะไร
การดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมากและดื่มติดต่อกันเป็นเวลาหลายปี จนตับไม่สามารถย่อยสลายได้สมบูรณ์ จนทำให้เกิดสารตกค้างในกระบวนการย่อยคั่งค้าง ซึ่งสารดังกล่าวจะเข้าไปทำลายเซลล์ตับ ขัดขวางการทำงานของตับ และการสลายไขมัน ทำให้ไขมันสะสมในเซลล์ตับเพิ่มขึ้น หรือที่เรียกว่าภาวะไขมันพอกตับ และหากยังคงดื่มแอลกอฮอล์ต่อไปเรื่อย ๆ เซลล์ตับก็จะไม่สามารถซ่อมแซมตัวเองได้ จนเกิดเป็นเนื้อเยื่อพังผืดหรือแผลเป็นในตับ กลายเป็นโรคตับแข็ง ตับวาย และพัฒนาเป็นมะเร็งตับได้
โรคตับอักเสบจากไวรัส
โรคตับอักเสบ สามารถเกิดขึ้นได้จากไวรัสตับอักเสบทั้ง 5 ชนิด โดยแต่ละชนิดจะมีลักษณะการติดต่อที่แตกต่างกันไป แต่หากป่วยเป็นโรคนี้โดยไม่รู้ตัว และไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที ก็อาจจะก่อให้เกิดโรคตับอักเสบเรื้อรัง ตับแข็ง และมะเร็งตับได้
สังเกตอาการของโรคตับอักเสบอย่างไร
สำหรับอาการของมะเร็งตับมักจะเป็นอาการทั่วไป เช่น มีอาการปวดเมื่อยเนื้อตัว เบื่ออาหาร อ่อนเพลีย มีไข้ต่ำ คลื่นไส้อาเจียน เหนื่อยง่าย ตัวเหลือง ตาเหลือง เป็นต้น ซึ่งอาการเหล่านี้นับเป็นอาการที่ไม่สามารถเจาะจงได้ ดังนั้น ผู้ที่มีอาการข้างต้นจึงควรเข้ารับการตรวจไขมันในเลือดและตรวจเช็กค่าตับโดยแพทย์อย่างละเอียด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดโรคตับอักเสบเรื้อรังที่ทำให้เซลล์ตับถูกทำลาย และกลายเป็นโรคตับแข็ง หรือโรคมะเร็งในที่สุดด
แนวทางการรักษาโรคตับอักเสบ
ก่อนที่แพทย์จะแนะนำแนวทางการรักษาโรคตับอักเสบ จะมีการตรวจหาสาเหตุของการเกิดโรคอย่างละเอียด เพื่อหาวิธีรักษาที่เหมาะสมที่สุด โดยวิธีรักษาโรคตับอักเสบจากสาเหตุต่าง ๆ มีดังนี้
1.จากการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ
ไวรัสตับอักเสบเอ และอี เป็นการติดเชื้อเฉียบพลันและสามารถหายได้เองในระยะสั้น แพทย์จะแนะนำให้พักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำมาก ๆ และรับประทานอาหารที่มีประโยชน์
ไวรัสตับอักเสบดี เป็นชนิดที่พบได้น้อยมาก และในปัจจุบันยังไม่มียาต้านเชื้อไวรัสที่ได้ผล
ไวรัสตับอักเสบบี หากเป็นแบบเฉียบพลันจะสามารถหายได้เอง แต่หากเป็นแบบเรื้อรังจะต้องได้รับยาต้านเชื้อไวรัส โดยแพทย์จะทำการประเมินและรักษาเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง
2.จากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ควรหยุดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อให้ตับได้ฟื้นฟูและซ่อมแซมตัวเอง โดยจะมีการให้ยาอื่น ๆ ร่วมด้วยเพื่อบรรเทาอาการ เช่น ยาลดการอักเสบของตับ เป็นต้น
3.จากภาวะไขมันพอกตับ
แพทย์จะพิจารณาให้ยารับประทานตามความเหมาะสมของผู้ป่วย นอกจากนี้ผู้ป่วยจะต้องมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต หลีกเลี่ยงและลดความเสี่ยงหรือปัจจัยต่าง ๆ ที่ทำให้เกิดภาวะไขมันพอกตับ เช่น งดทานของมัน ของทอด งดดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เป็นต้น และเลือกทานผักผลไม้ที่มีประโยชน์เพื่อล้างไขมันในเส้นเลือด