motor expo: Nissan Qashqai ไมเนอร์เชนจ์ พร้อมดีไซน์ด้านหน้าใหม่ แรงบันดาลใจจากเก

[siritidaphon]

motor expo: Nissan Qashqai ไมเนอร์เชนจ์ พร้อมดีไซน์ด้านหน้าใหม่ แรงบันดาลใจจากเกราะญี่ปุ่นโบราณ

2025 Nissan Qashqai เอสยูวี C-Segment รุ่นพวงมาลัยขวา กำลังจะได้รับการปรับโฉมครั้งใหม่ให้สวยขึ้นกว่าเดิมในออสเตรเลีย คงจะดีหากรถรุ่นนี้มีโอกาสทำตลาดในเมืองไทย
 
หากใครไม่แน่ใจว่า Qashqai เป็นเอสยูวีขนาดเท่าไหร่ ใหญ่กว่า Kicks หรือไม่ ลองคิดตามง่าย ๆ Nissan Qashqai นั้นคือ Nissan X-Trail ที่มีดีไซน์สปอร์ตนั่นเอง
 
 
หาก Nissan Qashqai มีขายในบ้านเรา อาจเริ่มที่ 1.2 ล้านบาท
 
สำหรับ Nissan Qashqai โฉมล่าสุดนี้ทำตลาดในออสเตรเลียเพียง 18 เดือนก่อนการปรับโฉมครั้งนี้ ซึ่งในความจริงแล้วรถรุ่นนี้มีการทำตลาดในยุโรปมากว่า 3 ปีแล้ว จึงสมควรแก่เวลาสำหรับการปรับโฉมหรือไมเนอร์เชนจ์แล้ว เพื่อให้ต่อสู้กับสมรภูมิของเอสยูวีที่กำลังดุเดือดอย่างมากในตอนนี้
 
Qashqai รุ่นปรับโฉมสเปคออสเตรเลียยังไม่มีการประกาศราคาอย่างเป็นทางการ โดยราคาปัจจุบันนั้นอยู่ที่ 33,890 - 47,390 ดอลล่าร์หรือราว 1.2 - 1.7 ล้านบาทซึ่งรวม on-road costs แล้วสำหรับรุ่นเบนซินล้วน และราคาเริ่มต้นที่ 51,590 ดอลล่าร์ (ราว 1.89 ล้านบาท) สำหรับรุ่นขุมพลัง e-Power
 

โดดเด่นที่กระจังหน้าดีไซน์ใหม่
 
การปรับโฉมครั้งนี้เริ่มที่การเปลี่ยนกระจังหน้าให้มีขนาดใหญ่ โดยมี “องค์ประกอบรูปทรงลูกน้ำ” สีดำเงา ซึ่งเคลมว่าได้รับแรงบันดาลใจจาก “เสื้อเกราะญี่ปุ่นโบราณ” พร้อมดีไซน์กันชนหน้าแบบใหม่
 
ไฟหน้าก็ถูกเปลี่ยนเป็นดีไซน์ใหม่พร้อมโมดูลของ adaptive high-beam แบบใหม่ที่เคลมว่าจะช่วยปรับปรุงความกว้างของแสง ขณะที่ไฟท้ายแบบใหม่มาพร้อมโคมแบบใสและองค์ประกอบทรงลูกน้ำสีแดง
 
กันชนด้านหลังถูกดีไซน์ใหม่ด้วยเช่นกัน โดยจะมาพร้อมสีดำเงาหรือสีเดียวกับตัวรถ ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย ด้านข้างจะมีการตกแต่งสีดำเงาในรุ่นท็อป ล้ออัลลอยมีให้เลือกทั้ง 18 นิ้ว, 19 นิ้ว และ 20 นิ้ว สีภายนอกจะมี Pearl White, Pearl Black และ Deep Ocean
 
ในสเปคยุโรปจะมีรุ่น N-Design ที่จะมาพร้อมแผ่นด้านข้างสีเดียวกับตัวรถ และล้ออัลลอย 20 นิ้วลายใหม่
 

ภายในดีไซน์ล้ำ พร้อมวัสดุและเทคโนโลยีใหม่
 
สำหรับภายในของ Qashqai ใหม่ มาพร้อมจอกลางขนาด 12.3 นิ้ว รองรับระบบสัมผัสในรุ่นท็อป รองรับแอพ Google built-in ที่ประกอบด้วย  Google Maps, Google Assistant และ Google Play app store พร้อมเทคโนโลยี Amazon Alexa
 
ในสเปคยุโรป รุ่นสูง ๆ จะมาพร้อมแดชบอร์ด แผงประตู ที่วางแขน หรือที่วางเข่า ที่หุ้มด้วยวัสดุคล้าย Alcantara ขณะที่มีวัสดุที่เป็น “ลวดลาย” หุ้มหัวเกียร์ และบริเวณเหนือกล่องเก็บของด้านข้างคนขับ และยังมีเบาะที่หุ้มด้วยวัสดุใหม่ ประกอบด้วย “หนังพรีเมียมที่บุนวมบางส่วน” เป็นวัสดุคล้ายหนังสังเคราะห์บุนวมทั้งตัวพร้อมสีสันสดใส และในรุ่น N-Design จะเป็นหนังสลับกับ Alcantara
 

สิ่งที่น่าสนใจอื่น ๆ ได้แก่ ไฟ ambient light ในรุ่นท็อป และมาตรวัดดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้วแบบใหม่ กล้อง 360 องศาของรถถูกอัพเกรดใหม่ด้วยโหมด 3D view, กล้องที่ชัดขึ้น, และ 'invisible bonnet' view ที่ช่วยให้เห็นตำแหน่งของล้อหน้า และฟีเจอร์ที่ช่วยจำที่จอดรถที่จอดยาก ๆ
 
นอกจากนี้ Qashqai ใหม่ยังได้รับระบบความปลอดภัยใหม่เพิ่มเติมเพื่อให้สอดคล้องกับกฎระเบียบใหม่ของยุโรป ประกอบด้วย ระบบตรวจจับป้ายจราจรใหม่ ซึ่งใช้ข้อมูลจาก GPS และสามารถอ่านได้เร็วขึ้น รวมถึงส่งเสียงเตือนเมื่อผู้ขับขี่ขับเร็วกว่าที่ป้ายกำหนด
 
อย่างไรก็ตาม Nissan ได้เพิ่มโหมดสำหรับระบบช่วยเหลือการขับขี่ เพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถตั้งค่าความไวของระบบความปลอดภัยเหล่านี้ได้ โดยใช้เพียง 2 ขั้นตอน คือใช้ปุ่มลัดที่อยู่บนพวงมาลัยฝั่งซ้าย และกดปุ่ม OK เท่านั้น
 
สำหรับระบบป้องกันการออกนอกเลนจะเปิดเป็นค่าเริ่มต้นตั้งแต่สตาร์ทรถ ส่วนระบบช่วยเบรคฉุกเฉินอัตโนมัตินั้นเคลมว่าทำงานได้เร็วยิ่งขึ้นเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ

 
โดดเด่นด้วยขุมพลัง e-Power ที่ใหญ่กว่า Kicks
 
สำหรับ Qashqai สเปคยุโรปมาพร้อมขุมพลังให้เลือกหลากหลาย ได้แก่
 
เครื่องยนต์ 4 สูบ 1.3 ลิตร เทอร์โบ พร้อมเทคโนโลยีไมล์ดไฮบริด 48 Volt ให้กำลังสูงสุด 156 แรงม้า 270 นิวตันเมตร
เครื่องยนต์ e-Power ที่ใช้เครื่องยนต์ 3 สูบ 1.5 ลิตร ขนาด 155 แรงม้า ปั่นไฟให้มอเตอร์ขับเคลื่อนขนาด 187 แรงม้า แรงบิด 330 นิวตันเมตร
 
สำหรับ Nissan Qashqai เวอร์ชั่นยุโรปจะมีทั้งระบบขับเคลื่อนล้อหน้าและขับเคลื่อน 4 ล้อ ส่วนสเปคออสเตรเลียจะมีเพียงระบบขับเคลื่อนล้อหน้าเท่านั้น
 
2025 Nissan Qashqai รุ่นพวงมาลัยขวา คาดว่าจะเริ่มจำหน่ายในออสเตรเลียในช่วงปลายปี 2024 ส่วนในบ้านเราก็คงได้แต่หวังกันไป