บริหารจัดการอาคาร: วิธีประหยัดแอร์ แต่บ้านยังเย็นสบายไม่เปลี่ยนหน้าร้อนทีไรเหงื่อแตกทุกที โดยเฉพาะตอนบิลค่าไฟมาสิ้นเดือน เพราะแพงกว่าค่าไฟปกติหลายพันนัก แต่ถ้าไม่เปิดแอร์ก็คงอยู่ไม่ได้ใช่ไหมล่ะคะ ดังนั้นในวันนี้เลยขอนำ 13 วิธีลดใช้แอร์ในหน้าร้อน แต่อากาศภายในบ้านยังเย็นสบายเหมือนเปิดแอร์ตามปกติมาฝากกัน เพื่อช่วยประหยัดพลังงาน ประหยัดไฟ และหมดกังวลเรื่องค่าไฟที่เพิ่มขึ้นทุกเดือนเสียที
1. มีฉลากไฟเบอร์ 5
เพราะนอกจากจะเป็นแอร์ที่ผ่านการทดสอบประสิทธิภาพการประหยัดพลังงานของ กฟผ. แล้ว บนฉลากยังบอกค่าไฟฟ้าเฉลี่ยต่อปี อีกทั้งยังมีจำนวนดาวบอกระดับการประหยัดพลังงาน หากจะให้ดีควรดูที่ค่า SEER (Seasonal Energy Efficiency Ratio) หรือค่าวัดประสิทธิภาพการใช้พลังงานตามฤดู ควบคู่กันไปด้วย เพราะยิ่งมีมากก็จะช่วยประหยัดค่าไฟได้อีกทางหนึ่งนั่นเอง
2. ล้างแอร์
เมื่อผ่านการใช้งานไปนาน ๆ แม้จะลดอุณหภูมิแอร์แล้วแต่ก็ยังไม่รู้สึกเย็น นั่นเป็นเพราะว่ามีฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกเข้าไปสะสมในแอร์มากขึ้นเรื่อย ๆ เลยทำให้แอร์ทำงานหนักขึ้นและกินไฟมากขึ้น ซึ่งสามารถแก้ไขเบื้องต้นได้ด้วยการถอดแผ่นกรองหยาบออกมาทำความสะอาด อย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง เพียงเท่านี้ก็ทำให้แอร์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและปล่อยลมเย็นได้เหมือนเดิมแล้ว
3. เพิ่มอุณหภูมิแอร์ตอนกลางคืน
เพราะตอนกลางคืนเป็นช่วงที่ไม่มีแสงแดด ฉะนั้นอากาศก็จะร้อนน้อยกว่าช่วงกลางวันระดับหนึ่ง การปรับอุณหภูมิแอร์เพิ่มขึ้น 1 องศาเซลเซียส ในช่วงที่คุณนอนหลับหรือก่อนเข้านอนสัก 1-2 ชั่วโมง ก็จะช่วยประหยัดค่าไฟได้ถึง 10% เลยทีเดียว หรืออีกหนึ่งวิธีก็คือ เลือกใช้ Sleep Mode แอร์จะปรับอุณหภูมิขึ้น 1-2 องศาเซลเซียสอัตโนมัติ ซึ่งจะช่วยให้นอนหลับสบายและช่วยประหยัดไฟไปพร้อมกัน
4. เปิดพัดลมพร้อมกับเปิดแอร์
อีกหนึ่งทริกการประหยัดแอร์หน้าร้อนก็คือ เปิดพัดลมไล่ความร้อนในห้องก่อนเปิดแอร์สักพัก แล้วค่อยเปิดพัดลมพร้อมกับเปิดแอร์ โดยการเพิ่มอุณหภูมิแอร์ไปที่ 26-28 องศาเซลเซียส ก็จะช่วยลดอุณหภูมิลงมาได้อีก 2-3 องศาเซลเซียส คราวนี้อากาศในบ้านก็จะเย็นสบายกำลังดีแถมไม่เปลืองไฟอีกต่างหาก
5. ควบคุมชั่วโมงการเปิดแอร์
ในวันที่อากาศร้อนอบอ้าวเสียขนาดนี้ ปิดแอร์แป๊บเดียวก็กลับมาร้อนเหมือนเดิมแน่ ๆ ดังนั้นคงเป็นไปได้ยากถ้าหากจะให้ควบคุมชั่วโมงเปิดแอร์ตอนกลางวัน ฉะนั้นหากอยากประหยัดค่าไฟแนะนำให้ใช้วิธีนี้ตอนกลางคืน โดยตั้งเวลาปิดแอร์ช่วงตี 2 หรือตี 3 ส่วนก่อนนอนให้เปิดพัดลมทิ้งไว้ด้วย จะได้ไม่ตื่นกลางดึกเพราะต้องลุกขึ้นมาปิดแอร์
6. ปิดแอร์ก่อนออกจากห้อง
ส่วนใหญ่อาจจะเคยชินกับการปิดแอร์ก่อนออกจากห้อง จากนี้ลองเปลี่ยนมาเป็นปิดแอร์ก่อนออกจากห้องประมาณ 30 นาที - 1 ชั่วโมง หรืออย่างน้อย ๆ สัก 10 นาที ซึ่งระหว่างนี้ก็ยังสามารถอยู่ในห้องต่อได้อย่างสบาย เพราะยังมีไอความเย็นหลงเหลืออยู่ อีกทั้งยังช่วยประหยัดไฟได้อีกต่างหาก
7. ปิดไฟแล้วเปิดม่านแทน
นอกจากแสงแดดที่ทำให้เกิดความร้อนในบ้านแล้ว แสงไฟจากหลอดไฟก็มีส่วนที่ทำให้บ้านร้อนเหมือนกัน อีกทั้งยังทำให้เครื่องปรับอากาศทำงานหนักขึ้นด้วย ฉะนั้นตอนกลางวันแนะนำให้หลีกเลี่ยงการเปิดไฟ แล้วเปลี่ยนไปเปิดหน้าต่างหรือเปิดแค่ผ้าม่านแทน เพื่อให้บ้านสว่างขึ้นแต่ร้อนน้อยลง
8. ใช้เครื่องปรับอากาศเคลื่อนที่
เครื่องปรับอากาศเคลื่อนที่จะทำความเย็นเฉพาะจุดหรือพื้นที่ที่ต้องการ ซึ่งจะต่างจากแอร์ตัวใหญ่ที่มีระบบการทำงานแบบกระจายความเย็นทั้งห้อง ทั้งยังใช้ไฟน้อยกว่าแอร์ถึง 50% เลยนะจะบอกให้ หรือใช้พัดลมไอเย็นมาช่วยดับร้อน ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจไม่แพ้กัน
9. ไม่นำความชื้นเข้าห้อง
แอร์ใช้พลังงานในการทำความเย็น 30% และอีก 70% เป็นพลังงานสำหรับจำกัดความชื้น ทำให้อากาศในห้องแห้ง ฉะนั้นควรเลี่ยงนำสิ่งของที่มีความชื้นเข้าห้อง เช่น ต้นไม้ หรือผ้าเปียก เป็นต้น
10. ไม่นำของร้อนเข้าห้อง
อุปกรณ์หรือเครื่องครัวต่าง ๆ ที่ทำความร้อน เช่น กระทะไฟฟ้า หม้อต้มสุกี้ ไม่ควรนำมาประกอบอาหารในห้องแอร์ เพราะความร้อนในห้องนั้น ๆ จะสูงขึ้นและทำให้แอร์ทำงานหนักขึ้น ฉะนั้นจึงควรประกอบอาหารให้เสร็จในครัวหรือพื้นที่อื่น ๆ ที่ไม่ได้เปิดแอร์ดีกว่า
11. ปิดประตูและหน้าต่างให้สนิท
ก่อนจะเปิดแอร์ควรปิดประตูและหน้าต่างในห้องให้สนิท แต่ถ้ามั่นใจว่าปิดดีแล้ว แต่ยังรู้สึกสงสัยว่าทำไมค่าไฟยังแพงอยู่ นั่นอาจเป็นเพราะว่ามีจุดรั่วไหลของแอร์ตามช่องใต้ประตูหรือซอกหน้าต่าง ฉะนั้นควรรีบสำรวจแล้วจัดการปิดรอยรั่วเหล่านั้นซะให้เรียบร้อย
12. ปลูกต้นไม้
หากบริเวณบ้านยังมีที่ว่างเหลือ ๆ ลองหาต้นไม้ให้ร่มเงามาปลูกดู เพราะรู้หรือไม่ว่าการปลูกต้นไม้สามารถช่วยลดอุณหภูมิรอบ ๆ ได้ถึง 2-4 องศาเซลเซียส แถมยังช่วยลดการใช้พลังงานจากแอร์ได้ 10-15% โดยเฉพาะการปลูกต้นไม้ใหญ่สามารถให้ความเย็นเท่าเครื่องปรับอากาศขนาด 12,000 BTU เลยทีเดียว
13. ตั้งคอมเพรสเซอร์ในที่ร่ม
จริง ๆ แล้วตำแหน่งวางคอมเพรสเซอร์ก็มีผลกับการใช้พลังงานเหมือนกัน หากเป็นไปได้ควรติดตั้งไว้ในที่ร่ม และมีอากาศถ่ายเทสะดวก ก็จะช่วยให้สามารถประหยัดไฟฟ้าเพิ่มได้อีก 15-20% เลยทีเดียว เรียกว่าบิลมาก็ไม่ต้องตกใจค่าไฟตอนสิ้นเดือนอีกต่อไป
ต่อให้หน้าร้อนจะร้อนอบอ้าวแค่ไหน แต่เราก็สามารถประหยัดค่าไฟได้ด้วยวิธีลดค่าแอร์ช่วงหน้าร้อนเหล่านี้ วิธีง่าย ๆ ที่จะช่วยลดปริมาณการใช้แอร์ แต่ภายในบ้านยังคงเย็นสบายน่าอยู่เหมือนเดิม