การทำบุญที่ดีที่สุด คืออะไร ทำไมเราต้องทำบุญการทำบุญเป็นคำที่ศาสนิกชนชาวพุทธรู้จักกันดี แต่จะมีใครรู้ หรือเข้าใจความหมายจริง ๆ ของการทำบุญบ้าง? และทำไมเราจึงต้องทำบุญ เรามีคำตอบมาฝาก
คำว่า "บุญ" มาจากภาษาบาลีว่า "ปุญญะ" หมายถึง การทำความดี หรือเครื่องชำระจิตใจให้บริสุทธิ์ กำจัดกิเลสที่ทำให้จิตใจมัวหมอง ลด ละ เลิกความเห็นแก่ตัวซึ่งเป็นต้นเหตุแห่งทุกข์ ดังนั้นการทำบุญที่ถูกวิธีจึงต้องเน้นผลลัพธ์ที่เกิดจากจิตใจเป็นหลัก นั่นคือ เริ่มจากความคิดดี พูดดี ทำดี เมื่อจิตใจบริสุทธิ์ก็ย่อมหมายถึงการทำบุญ และนี่ก็คือวัตถุประสงค์การทำบุญ ซึ่งก็คือเพื่อชำระล้างจิตใจของตัวเราเองนั่นเอง
หากพูดถึงเรื่องการทำบุญแล้ว ศาสนิกชนอย่างเรา อาจคิดถึงการตักบาตร ถวายสังฆทาน อาหารเพลพระ หรือให้ทาน แต่รู้มั้ยว่าจริง ๆ แล้วการทำบุญยังมีอีกหลายวิธี บางเรื่องอาจเป็นการทำบุญน้อยแต่ได้ อานิสงส์มาก รวมถึงเป็นการทำบุญง่าย ๆ ที่เราสามารถทำได้ในชีวิตประจำวัน
การทำบุญมีกี่แบบ
พระพุทธศาสนาบัญญัติเรื่องการทำบุญไว้ว่าด้วยบุญกิริยาวัตถุ กล่าวว่าการทำบุญ มี 3 ประเภท คือ
ทานมัย คือ การบริจาคสิ่งของ ทรัพย์สิน ให้แก่ผู้ที่ควรให้
ศีล คือ การสำรวมกาย วาจา ใจ ให้บริสุทธิ์ อยู่ในความสงบ เรียบร้อย ไม่คิด พูด หรือทำในสิ่งที่สร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่น
ภาวนา คือ การสวดมนต์ นั่งสมาธิ สนทนาธรรม หรืออ่านหนังสือธรรมะเพื่อกล่อมเกลาจิตใจ
การทำบุญทั้ง 3 ประเภทคือการทำบุญง่าย ๆ ทำบุญ เห็นผลทันตาเพราะช่วยให้จิตใจสงบ ช่วยตัดต้นเหตุแห่งทุกข์ จิตใจจึงแจ่มใสและเบิกบาน ซึ่งเป็นผลลัพธ์ที่เห็นได้แบบทันทีเมื่อเราคิดดี ทำดี พูดดี และหมั่นบริหารจิตใจให้ตั้งอยู่ในความบริสุทธิ์
ทำบุญอะไร ได้อานิสงส์แรง
เชื่อว่าหลายๆ คนคงเคยมีคำถามนี้เกิดขึ้นในหัวว่า ทำบุญอะไร ทำบุญแบบไหน ได้อานิสงส์แรง ? ซึ่งเราก็ขอตอบให้เลยว่า การทำบุญที่ดีที่สุด คือการทำบุญที่ไม่เบียดเบียนตัวเอง ไม่เบียดเบียนผู้อื่น ไม่ว่าจะเลือกทำบุญด้วยวิธีไหน ก็อย่าลืมว่าการทำบุญที่ดีที่สุด คือการทำบุญที่ตัวเราเองไม่เดือดร้อน อยู่ในขอบเขตที่สามารถทำบุญได้ โดยไม่เบียดเบียนทรัพย์สินของตัวเองและคนอื่น
ที่สำคัญการทำบุญที่ถูกวิธียังต้องประกอบไปด้วยปัจจัยอื่น ๆ คือ ทรัพย์สินหรือสิ่งที่ของที่ได้มาต้องได้มาโดยสุจริต ไม่ไปเบียดเบียนใครมา และการทำบุญต้องทำด้วยใจบริสุทธิ์ เต็มใจ ไม่ฝืนทำ จึงจะเป็นการทำบุญที่ได้อานิสงส์แรง และช่วยขัดเกลาจิตใจให้สงบบริสุทธิ์อย่างแท้จริง และหากใครอยากได้แนวทางว่าทำบุญ อะไร อานิสงส์แรง เรามีแนวทางการทำบุญในชีวิตประจำวันมาฝาก
1. ถือศีล 5 ในชีวิตประจำวัน อานิสงส์ของการถือศีล 5 จะช่วยให้เกิดความโชคดี ลดกรรม ช่วยให้จิตใจสงบและใช้ชีวิตได้อย่างราบรื่น เป็นการทำบุญน้อยแต่ได้ อานิสงส์มาก
2. ปล่อยสัตว์ให้เหมาะสมกับพื้นที่ เป็นการลดการเบียดเบียนชีวิตผู้อื่น อานิสงส์ช่วยให้หมดทุกข์หมดโศก รอดพ้นจากเคราะห์ภัย และพบแต่ความสุขในชีวิต
3. ให้ทานแก่ผู้ยากไร้ เช่น การบริจาคหนังสือ เสื้อผ้า ข้าวของเครื่องใช้จำเป็นที่ยังใช้งานได้ ให้กับผู้ที่ขาดแคลน อานิสงส์จะช่วยให้ชีวิตมีโชคลาภ ทำสิ่งใดก็จะราบรื่นไม่ติดขัด แคล้วคลาดปลอดภัย
4. ถวายสังฆทานและสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็นให้แก่พระสงฆ์ อานิสงส์จะช่วยให้ชีวิตหมดทุกข์หมดโศก มีความมั่งคั่ง อุดมสมบูรณ์ไม่ขัดสน
5. เติมน้ำมันตะเกียงให้กับวัด อานิสงส์จะช่วยให้ชีวิตมีแต่ความรุ่งโรจน์เหมือนแสงของตะเกียงที่ลุกโชน ทำให้ชีวิตราบรื่น ไม่มีปัญหาอุปสรรค
6. บริจาคข้าวสาร อาหาร น้ำดื่ม หรือถวายกระดาษทิชชูให้กับวัด อานิสงส์จะช่วยให้ชีวิตมีแต่ความอุดมสมบูรณ์ ไม่ขัดสน และมีบารมี
7. พิมพ์หนังสือธรรมะแจกเป็นทาน อานิสงส์จะช่วยส่งเสริมให้มีวาสนา บารมี ช่วยให้มีสติปัญญาดี ดังที่กล่าวว่าการทำบุญที่ดีที่สุด คือการมอบความรู้เป็นทาน
8. บริจาคค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าสาธารณูปโภคต่าง ๆ ให้กับวัด อานิสงส์จะช่วยให้ชีวิตมีแต่ความโชคดี มีความสุข ราบรื่น ปลอดจากเคราะห์ต่าง ๆ
9. ทำบุญบริจาคโลงศพ ผ้าห่อศพ ให้กับศพยากไร้หรือศพไร้ญาติ อานิสงส์จะช่วยเสริมดวงชะตาให้แข็งแกร่ง แคล้วคลาดปลอดภัย ช่วยผ่อนเคราะห์หนักให้กลายเป็นเบา
อย่างที่เรากล่าวไปแล้วว่าการทำบุญที่ดีที่สุด คือการทำบุญที่เกิดจากใจบริสุทธิ์ ส่วนการทำบุญที่ถูกวิธีต้องเป็นการทำบุญที่ไม่เบียดเบียนใคร สิ่งของหรือปัจจัยต่าง ๆ ได้มาอย่างสุจริต หากเป็นการทำบุญตามหลักพิธีทางศาสนาก็ต้องอยู่ในกรอบประเพณีอันเหมาะสม ทำบุญตามที่ถูกที่ควร ไม่จำเป็นต้องทุ่มเงินเยอะจนตัวเองเดือดร้อน แต่เน้นทำอย่างสม่ำเสมอโดยไม่ให้ตัวเองต้องเดือดร้อนจะดีที่สุด และยังเป็นการทำบุญ เห็นผลทันตาเพราะแต่ละครั้งที่ได้ทำดี จิตใจที่ได้คิดดี พูดดี ก็จะได้รับการกล่อมเกลาให้สงบและเป็นสุข ถือเป็นผลลัพธ์ที่เห็นชัดที่สุดในการทำบุญนั่นเอง